(22) Mahabodhi Temple Complex at Bodh Gaya / (23) Group of Monuments at Pattadakal / (24) Dholavira
(22)Mahabodhi Temple Complex at Bodh Gaya
เจดีย์พระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา
คนไทยรู้จักกันดี แต่ขอเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนิดหนึ่งนะ เจดีย์พระศรีมหาโพธิ์ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทั้งในด้านความสำคัญทางศาสนา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ เป็นเจดีย์ทางพุทธศาสนา รูปทรงปิระมิด สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมอินเดีย เจดีย์ถูกสร้างครั้งแรกตั้งแต่ 300 ปีก่อนคริสตกาลโดยคำสั่งของพระเจ้าอโศกมหาราช ผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธ เชื่อกันว่าครั้งแรกเจดีย์ถูกสร้างล้อมรอบต้นโพธิ์ หลังจากนั้นเจดีย์ได้ผุผังลง และได้มีการสร้างเจดีย์องค์ใหม่ใกล้ๆ ต้นโพธิ์แทน
นักโบราณคดีเชื่อว่าอายุของเจดีย์องค์ปัจจุบันอยู่ในช่วงคริสตศักราชที่ 5-6 โดยได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเรื่อยมา เจดีย์สร้างด้วยอิฐทั้งหลัง สูง 50 เมตร ฐานกว้างราวๆ 122 เมตร ล้อมรอบด้วยโบราณวัตถุ โบราณสถานสำคัญ เช่น ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระแท่นวัชรอาสน์ ที่ประทับตรัสรู้ เป็นต้น เจดีย์พระศรีมหาโพธิ์นับว่าเป็นเจดีย์ที่ก่อสร้างด้วยอิฐทั้งหลังยุคแรกในอินเดียที่มีอายุเก่าแก่และยังคงยืนหยัดอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน
(24) Dholavira / Gujarat
เราเคยเรียนกันมาว่าในแถบเอเชียอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุนั้นเก่าแก่ที่สุด (ราวๆ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล) เป็นวัฒนธรรมรุ่นเดียวกับอียิปต์ และเมโสโปเตเมีย
แม่นำ้สินธุมีต้นกำเนิดอยู่ในปากีสถาน ค่อยๆ ไหลลงมาทางใต้ผ่าน ลาดักห์(Ladakh) ยาวลงมาราชาสถาน (Rajasthan) และลงทะเลที่กุจราต (Gujarat) แต่ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก แม่น้ำเปลี่ยนทิศบริเวณนี้จึงเป็นทะเลทราย แต่ซากอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ (Indus Valley Civilization หรือ เรียกอีกชื่อว่า Harappan Civilization) ยังคงมีเหลืออยู่บ้าง
Dholavira (โดห์ลาวิร่า) ถูกค้นพบในช่วงปีค.ศ.1967-68 กลายเป็นโบราณสถานในยุคอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุแห่งที่ 8 ที่ขุดเจอ (อีก 7 ที่คือ Harappa, Mohenjo-daro, Ganeriwala, Rakhigarhi, Kalibangan, Rupnagar และ Lothal ซึ่งอันหลังนี้อันนี้อยู่ในกุจราตเช่นกัน) และเป็นซากอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุที่ทรงคุณค่าที่สุดในอินเดีย
ความน่าสนใจของซากอารยธรรมที่โดห์ลาริร่า คือ การออกแบบโครงสร้างทางน้ำ วิศวกรรมโครงสร้างการกรองและกักเก็บน้ำ ซึ่งในยุค 3,000 ปีก่อนคริสตกาลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
โดห์ลาริร่า ตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ ทำเลดี มีแม่น้ำไหลผ่าน 2 สาย ยอดเนินเป็นส่วนของกษัตริย์และราชวงศ์ พื้นล่างลงมาหน่อย เรียกว่า "Middle Town" เป็นโซนของสามัญชน ร้านค้าและตลาด และชั้นล่างสุดบริเวณตีนเขาเรียกว่า "Lower Town" เป็นอ่างเก็บน้ำ 16 แอ่ง ทุกแอ่งมีกระบวนการกรองน้ำและมีท่อหินเชื่อมต่อถึงกัน คาดว่าในยุคนั้นคงจะเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และน่าจะมีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า 22,000 คน
Dholavira ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อกรกฎาคม 2021