Rajasthan .. ล่องแคว้นแดนราชา (12 คืน 12 วัน)
ราชาสถาน (Rajasthan)
ถ้าถามว่าชอบที่ไหนที่สุดในอินเดีย สำหรับคนที่ชอบศิลปะ สถาปัตยกรรมและวิถีชีวิต ชื่อ “ราชาสถาน” จะเป็นที่แรกที่เด้งขึ้นมาในหัว!
จะไม่ให้ชอบได้ยังไง! ป้อมปราสาทอลังการ สีสันจัดจ้าน ช๊อปปิ้งสนุก แถมแต่ละเมืองในรัฐนี้ก็ไม่เหมือนกันเลย!
ทริป "Rajasthan ล่องแคว้นแดนราชา" เป็นทริปที่เจาะลึกราชาสถานและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
ด้วยความที่เป็นรัฐที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย มีพื้นที่จากขวาไปซ้าย จากบนลงล่าง ราวๆ 700 - 800 ตารางกิโลเมตร ด้านซ้ายติดกับ ทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) ส่วนด้านขวาเป็นภูเขาอุดมสมบูรณ์ เราจะได้เห็นตั้งแต่วิถีชีวิตดั้งเดิมผ่านความงามบนผ้าพิมพ์ที่ขึ้นชื่อของ จัยปูร์ (Jaipur) เห็นบ้านเรือนที่สร้างด้วยหินทรายทั้งเมือง ที่ จัยซาลเมียร์ (Jaisalmer) เมืองสุดท้ายริมชายแดนอินเดีย -ปากีสถาน, เราจะได้เห็นอดีตความมั่งคั่งของเหล่าราชปุต (ชาวท้องถิ่นดั้งเดิมของราชาสถาน) บนป้อมเมรังการ์ต (Merangarh Fort) ที่ จ๊อดปูร์ (Jodhpur) และเห็นภูมิปัญญาในการสร้างป้อมปราการป้องกันเมืองที่ไม่ใช่แค่การสร้างกำแพง แต่เป็นการรรวมเอาพระราชวัง ที่อยู่ที่อาศัย แหล่งน้ำ และวัดรวมกันอยู่ในพื้นที่ของป้อมเดียว อย่าง ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort), ป้อมจัยซาลเมียร์ (Jaisalmer Fort), ป้อมคุมบาลการ์ท (Kumbalgarh Fort) และ ป้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ ป้อมชิตโตการ์ต (Chittorgarh Fort)
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งซ้ายที่ค่อนข้างอุดมสมูบรณ์ มีน้ำ มีทะเลสาป ผู้คนก็ใช้เวลากับภาพเขียนและงานศิลปะได้เต็มที่ พระราชวังก็เลยปราณีวิจิตรกว่า บ้านเรือนสองข้างทางเต็มไปด้วยภาพเขียนอย่างที่ อุดัยปูร์ (Udaipur) และ บุนดี้ (Bundi)
สำหรับขาช๊อปฯ ชาวราชาสถานมีฝีมือในการเย็บปัก สไตล์ที่โดดเด่นคือการตัดกระจกเป็นชิ้นเล็กๆ และเย็บติดกับผ้า ที่นี่มีผ้าสารพัดแบบ ตั้งแต่ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าคลุมหัว ไปจนถึงผ้าคลุมเตียงให้เลือกสรรค์ ตลาดมีให้ช๊อปฯ ทุกเมือง ทุกคนที่มาราชาสถาน ไม่มีใครกลับบ้านมือเปล่า เชื่อสิ!
ชาวราชาสถานมีภาษาเป็นของตัวเอง และมีการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้คนแต่งตัวด้วยสีสันสดใน ผู้ชายจะโพกผมด้วยผ้าสารพัดสี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยบ่งบอกถึงวรรณะ ส่วนผู้หญิงจะใส่ชุดกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ไม่จำกัดเฉดสีเช่นกัน สำหรับช่างภาพแล้ว ที่นี่สีสันจัดจ้าน และถ่ายรูปออกมาสวยมาก!
ราชาสถานไม่มีภูเขาหิมะอย่างที่คนไทยเราชอบ แต่ราชาสถานมีให้ดูทั้งวิถีชีวิตทะเลทราย ภูเขา ทะเลสาป วัด ป้อมใหญ่โตอลังการ ปราสาท ศิลปะ หัตถกรรม และราชวังเก่า ที่สำคัญเราว่าราชาสถานเป็นเหมือนรากเหง้าของอินเดีย ที่หาดูไม่ได้แล้วในเมืองใหญ่ และเป็นอะไรที่มีเสน่ห์ และ “อินเดี๊ย...อินเดีย" ที่สุดละ!
วันที่เดินทาง: คืน 7 - 19 กุมภาพันธ์ 2023 (๒๕๖๖) / 12 คืน 12 วัน
---------------------------------
ราคา: 34,000 บาท / คน
(ราคาทริป รวมผู้นำทริปคนไทย - รถและที่พักตลอดทริป - ค่าเข้าชมทุกที่...ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
* ลูกทริปที่เคยไปกับเราแล้ว ลด 1,000 บาท*
---------------------------------
จำนวนคน: 3 คนเดินทางได้เลย! รับไม่เกิน 9 คน
---------------------------------
ตั๋วเครื่องบิน:
บิน Air Asia รวม 2 เที่ยวอยู่ที่ 12,xxx (สะดวกซื้อเองได้ หรือ Inbox เพื่อให้เราซื้อตั๋วให้ก็ได้นะ) ราคาขึ้นลงแล้วแต่วันนะ หมั่นเช็ค ราคาพอใจแล้วจัดการสอยได้เลย!
วีซ่า:
ทางเลือกที่ 1: เราจัดการเรื่องเอกสารให้ แต่ต้องไปยื่นเองตามกฏสถานฑูตอินเดียนะจ๊ะ
ทางเลือกที่ 2: E-Tourist Visa เราจัดการเอกสารออนไลน์และยื่นให้ทั้งหมด
ราคาใช้จ่ายรวม: โดยประมาณ 5x,xxx - ตลอดทริป
รถที่ใช้: 4 คนใช้ TOYOTA INNOVA, 6-8 คนใช้ TEMPO TRAVELLER 1 คัน
สภาพอากาศ: อากาศเย็นกำลังสบาย ฟ้าใส คนยังไม่เยอะมาก
Mandawa Bikaner Jaisalmer Jodhpur
Udaipur Chittorgarh Bundi Pushkar
โปรแกรมการเดินทาง
Day 0 / Tue 07 FEB : Bangkok - Jaipur
เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยสายการบิน AIR ASIA เที่ยวบินที่ FD 130 เวลา 19:25 ถึงสนามบินนานาชาติจัยปูร์ เวลา 22:05 รถและผู้นำทริปรอรับที่สนามบินจัยปูร์ เข้าที่พัก
(Overnight in Jaipur)
Day 1 / Wed 08 FEB : Jaipur - Mandawa (168 Kms / 2-3 hours)
- ลองโยเกิร์ตปั่น Lassi Wala เจ้าดังของ Jaipur บนถนน MI Road
เดินทางต่อไปยังเมืองแมนดาวา (Mandawa) เมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า เป็น “Open Gallery” มีคฤหาสถ์เก่าๆ (Havelis) กระจายอยู่เต็มเมืองแต่ละหลังมีภาพวาดประดับประดาสวยงามมาก เดินชมความงามของคฤหาสถ์แต่ละหลัง
เข้าที่พักที่ดัดแปลงมาจาก Haveli
(Overnight in Mandawa)
Day 2 / THU 09 FEB : Mandawa - Bikaner (190 Kms / 2-3 hours)
ออกเดินทางไปยังเมือง บิคาเนียร์ (Bikaner)
บิคาเนียร์ (Bikaner) เป็นเมืองใหญ่ อยู่ติดทะเลทรายธาร์ เยี่ยมชม Junagarh Fort ป้อมที่สมบูรณ์มากป้อมหนึ่งในอินเดีย Junagarh Fort สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1589 - 1593 เป็นป้อมที่ใหญ่ เป็นทั้งวัง และพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแต่งได้เนี้ยบและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ใช้เวลาราวๆ 1-2 ชั่วโมง แล้วเข้าที่พัก
(Overnight in Bikaner)
Day 3 / FRI 10 FEB : Bikaner - Jaisalmer (370 kms / 6-7 hours)
นั่งรถกันยาวสักหน่อย ตรงไปยัง “เมืองสีทอง” Jaisalmer (ไจซาลเมียร์)
ชม พระอาทิตย์ตกที่ Sunset Point ก่อนเข้าที่พัก
(Overnight in Jaisalmer)
Day 4 / SAT 11 FEB : Jaisalmer Sight Seeing - Khuri Desert (45 kms / 1 hour)
หลังอาหารเช้า ออกไปเยี่ยมชม “เมืองสีทอง”หรือ The Golden City ไจซาลเมียร์ ที่นี่เป็นเมืองที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยเอกลักษณ์ความสวยงามของบ้านเรือน ที่สร้างด้วยหินทรายสีน้ำผึ้ง ยามต้องแสงอาทิตย์สวยงามอร่ามดั่งทองซึ่งเป็นที่มา ของชื่อ “เมืองสีทอง” เนินเขาใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของ The Golden Fort หรือ Jaisalmer Fort ซึ่งเป็นป้อมปราการแห่งเดียวในอินเดียที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ อีกทั้งยังโอบล้อมไปด้วยวัดเชน และคฤหาสน์เก่าๆ (Haveli) ที่อวดลวดลายแกะสลัก ที่ปราณีตวิจิตรอย่างยิ่ง
ช่วงเช้า เยี่ยมชม Gardisar Lake ทะเลสาปที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งน้ำสำคัญของ Jaisalmer
พาเดินลัดเลาะตามเมืองเก่า และเยี่ยมชม Patwa Haveli ฮาเวลีที่สวยและปราณีตที่สุดในจัยซาลเมียร์ และ Natmal Ki Ji Haveli "ฮาเวลีสองพี่น้อง" ที่เป็นงานแข่งกันของช่างแกะสองพี่น้อง งานแกะทั้งสองฝั่งของอาคารไม่เหมือนกันเลย
ทานอาหารกันที่ The Trio ร้านอาหารที่ขึ้นขื่อที่สุดของ Jaisalmer
ช่วงบ่าย ต่อตรงไปยัง เมืองคูริ (Khuri Village) อยู่ห่างจากตัวเมืองราว 45 กิโลเมตร ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกที่เนินทราย กินอาหารค่ำสัมผัสอากาศเย็น และชมการแสดงท้องถิ่น จากนั้นออกไปนอนกลางทะเลทราย ท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านดวง คืนนี้เรานอนอาบลมห่มฟ้ากัน โรแมนติกมั่กมาก ขอบอก!
(Overnight in Desert or Tent)
Day 5 / SUN 12 FEB : Khuri - Jaisalmer Sight Seeing (Day 2)
หลังอาหารเช้า เดินทางกลับเข้ามายังตัวเมือง Jaisalmer (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) วันนี้เยี่ยมชม Jaisalmer Fort / และวัดเชนที่สวยงามและวิจิตรมากในตัวป้อม เดินเล่นและช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย
บ่ายๆ เยี่ยมชม Amar Sagar วัดเชนที่สวยวิจิตรอีกแห่งหนึ่งใน Jaisalmer ชมพระอาทิตย์ตกอีกมุมของเมือง
(Overnight in Jaisalmer)
Day 6 / MON 13 FEB : Jaisalmer - Jodhpur (285 kms / 4-5 hours)
หลังอาหารเช้า ออกเดินทางตรงดิ่งไป จ๊อดปูร์ (Jodhpur)
เยี่ยมชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) ป้อมปราการที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามอยู่บนเนินเขาสูง 125 เมตร มองลง มาจะเห็นที่มาของชื่อ “เมืองสีฟ้า” นั่นคือ ตึกรามที่ฉาบทาด้วยสีฟ้าในเมืองจ๊อดปูร์ สวยงามจับใจ นอกจากจะเป็นป้อมปราการและพระราชวังเก่า ที่นี่ยังกลายเป็น พิพิธภัณฑ์เก็บของวิจิตรล้ำค่าของราชวงศ์เก่าๆ ที่หาดูได้ยากยิ่งในอินเดียด้วย
เข้าที่พัก ชมวิวป้อมยามค่ำจากดาดฟ้าของโรงแรม หรือออกไปเดินชมแสงสีผู้คนในเมืองเก่า หรือ ช็อปปิ้งตามอัธยาศัย
(Overnight in Jodhpur)
Day 7 / TUE 14 FEB : Jodhpur Sight Seeing
เดินเล่นในเมืองเก่าพอสังเขป เยี่ยมชมบ่อน้ำขั้นบันได Toorji Ka Jhalra Bavdi ซึ่งอยู่ในเขตเมืองเก่าของจ๊อดปูร์
- (Option) เยี่ยมชม Rao Jodha Desert Rock Park ถ่ายภาพตัวป้อมจากด้านหลัง
(Overnight in Jodhpur)
Day 8 / WED 15 FEB: Jodpur - Ranakpur - Kumbhalgarh - Udaipur (260 / 5-6 hours)
ออกเดินทางต่อไปยัง “เมืองสีขาว” อุดัยปูร์ (Udaipur) แวะที่ วัดเชนใน รานัคปูร์ (Ranakpur Jain Temple) 1 ใน 5 วัด ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาเชน มีห้องโถง 29 ห้องและเสากว่า 1,114 ต้น แต่ละต้นมี ลวดลายแกะสลักที่ไม่ซ้ำกันเลย
จากนั้นไปยัง ป้อมคุมบาลการ์ท Kumbhalgarh Fort ป้อมปราการ บนเขาเลาะไหล่เขายาวถึง 36 กิโลฯ (ยาวเป็นที่ 2 รองจากกำแพงเมืองจีน) เป็น ป้อมที่มีความสำคัญหลังการล่มสลายของป้อมชิตโตการ์ท เป็นที่หลบภัยของเหล่า กษัตริย์จากการรุกรานของโมกุล รวมถึงเจ้าชายน้อยอุดัย ซิงค์ (Udai Singh) ที่หนีมาหลบภัย ตั้งแต่ยังเป็นทารก จนพระองค์เติบโตมาครอบครองราชบัลลังค์ และสร้างเมือ งอุดัยปูร์ที่เรากำลังจะไปกันในวันนี้ อิ่มใจแล้ววิ่งยาวต่อไปอุดัยปูร์ อาจจะถึงค่ำสักนิด ตรงเข้า ที่พักในอุดัยปูร์
(Overnight in Udaipur)
Day 9 / THU 16 FEB : Udaipur
อุดัยปูร์ (Udaipur) เมืองที่มีสมญานามว่า “เมืองสีขาว” (White City), และ “เมืองแห่งทะเลสาป” (Lake City) เพราะกลางเมืองมีทะเลสาปพิโชล่า (Pichola Lake) และมีพระราชวังกลางน้ำ (Lake Palace) (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรม 5 ดาว) วันนี้เข้าชม Udaipur City Palace ของ อุดัยปูร์ จากนั้นเดินลัดเลาะเมืองตามตรอก ซอกซอยเล็กๆ แคบๆ ที่มากมายด้วยร้านค้าแหล่งช็อปปิ้งในราคาไม่แพงนัก และ คาเฟ่เล็กๆ ริมน้ำ ชิลกันทั้งวัน
(Overnight in Udaipur)
Day 10 / FRI 17 FEB: Udaipur - Chittorgarh - Bundi (113 kms & 190 Kms)
จากอุดัยปูร์เดินทางต่อไป บุนดี้ (Bundi) ระหว่างทาง แวะ ป้อมชิตโตการ์ธ (Chittorgarh Fort) ... ชิตโตการ์ธ เป็นเมืองเก่าแก่ มีป้อมอยู่บนเขาซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตอนนี้กลายเป็นมรดกโลกไปแล้วด้วย วันนี้ทั้งวันใช้เวลากับป้อมชิตโตการ์ธไปเลย บ่ายๆ เดินทางต่อไปบุนดี้
(Overnight in Bundi)
Day 11 / SAT 18 FEB : Bundi - Pushkar (190 Kms / 2.3 - 3 Hours)
บุนดี้ (Bundi) เมืองเล็กๆ น่ารักที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Jodhpur น้อย มี Taragarh Fort ป้อมร้างบนเขาที่มองลงมาเห็นเมืองทั้งเมือง ชม Garh Palace ซึ่งมีภาพวาดเก่าแก่ขึ้นชื่อ บ่ายออกไปดู Rani Ji ki Barol บ่อน้ำเก่าแก่ และสวยงามที่สุด ของบุนดี้
บ่าย
เดินทางต่อไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูเมือง พุชการ์ (Pushkar) เมืองเล็กๆ น่ารักๆ ที่มีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ใจกลางเมืองด้วยความเชื่อที่ว่าทะเลสาปนี้กำเนิดขึ้นจากดอกบัวที่พระพรหมทิ้งลงมาบนพื้นโลก แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าแม่น้ำคงคา แต่ที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เหล่าผู้แสวงบุญชาวฮินดูมักมาทำพิธีชำระล้างร่ายกายตามท่าน้ำต่างๆ โดยรอบทะเลสาบ ที่นี่เป็นเมืองมังสวิรัติเต็มขั้น ไม่มีเนื้อสัตว์ให้กินนะจ๊ะเข้าที่พักในพุชการ์
(Overnight in Pushkar)
Day 12 / SUN 19 FEB : Pushkar - Jaipur (SHOPPING & DROP AIRPORT) (142 Kms / 2.3 hours)
เอนจอย ช๊อปปิ้ง และชิลๆ กันที่พุชการ์ จากนั้นอำลาราชาสถานเพื่อขึ้นเที่ยวบินที่ FD 131 ของสายการบิน Air Asia เวลา 22:35 กลับกรุงเทพฯ
*ราคานี้ “รวม”
• ค่าโรงแรมระดับ 3 ดาว ไม่หรูหรา แต่สะอาด เก๋ไก๋และบรรยากาศดี พร้อมอาหารเช้า
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริ
• ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• ค่าแพ็คเก็จขี่อูฐในไจซาลเมียร์ (แพ็คเก็จรวม ค่าขี่อูฐ ค่าค้างคืนกลางทะเลทราย ค่าอาหารค่ำ และอาหารเช้า)
• รวมค่าเข้าชมสถานที่ และค่ากล้อง (ยกเว้น ค่าเข้าชม Jaipur City Palace ROYAL SPLENDOUR TICKET)
*ราคานี้ “ไม่รวม”
• ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันและอาหารเย็น
• ค่าเครื่องดื่มต่างๆ
• ค่าทริปเด็กเสิร์ฟ เด็กยกกระเป๋า และคนขับรถวันละประมาณ 100 รูปี/คน หรือตามความพึงพอใจ
การจองทริป
1. ส่งแบบฟอร์มยืนยันการเดินทางด้านล่าง
2. โอนมัดจำทริป 5,000 บาทเข้าบัญชีด้านล่าง (เงินมัดจำส่วนนี้ไม่คืนนะจ๊ะ)
น.ส. เนตรทราย อินทรเจริญศักดิ์
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 372-217409-4
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 568-2-05142-8
จำนวนเงินส่วนที่เหลือจ่าย 15 วันก่อนออกเดินทาง!
3. จองตั๋ว จัดการวีซ่า แล้วก็ลุย!
ภาพจากทริปผ่านๆ มา
สิงหาคม 2557: http://www.amperjaitravel.com/15326382/colourful-rajasthan-august-2014
ตุลาคม 2557: http://www.amperjaitravel.com/15307136/taj-mahal-rajasthan-october-2014
พฤศจิกายน 2557: http://www.amperjaitravel.com/15313226/maharani-trip-november-2014
ตุลาคม 2558: http://www.amperjaitravel.com/15497085/rajasthan-ล่องแคว้นแดนราชาoctober-2015
กุมภาพันธ์ 2559: http://www.amperjaitravel.com/16002979/rajasthan-february-2016
ธันวาคม 2561 : https://www.amperjaitravel.com/17080397/rajasthan-december-2018
ทริปแนวศิลปะวัฒนะธรรม สถาปัตย์และผู้คน เส้นทางอื่นๆ
-
รัฐใต้สุดของอินเดีย ดินแดนแห่งศรัทธา ผู้คนผิวคล้ำ หน้าดุ แต่ใจดีไม่เหมือนหน้าตา รากเหง้าของวัฒนธรรมไทย -
รัฐที่มีความหลากหลาย สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และ ช๊อปปิ้งงานฝีมือ ครบในทริปเดียว -
รัฐใจกลางประเทศ ไปดูสถูปศาญจี วัดกามสูตรคชุรโห และ Orchha เมืองเล็กๆ แต่สถาปัตย์ยิ่งใหญ่
