ราชาฯ...พอสังเขป (9 คืน 9 วัน)

"ราชาฯ พอสังเขป"


 Jaipur  Bikaner  Jaisalmer  Jodhpur

Ranakpur Udaipur  Pushkar

วันที่เดินทาง:  xx 
จำนวนวัน:  9 คืน 9 วัน
จำนวนคน: ออกเดินทางที่ 4 คน รับไม่เกิน 9 คน 
ราคา: 21,000 บาท / คน 
(ค่าทริป รวมพาหนะ ที่พักอาหารเช้า ไกด์ไทย และค่าเข้าชมสถานที่.. ไม่รวมค่าเครื่องบิน)


ตั๋วเครื่องบิน:
Bangkok - Jaipur บิน Thai Smile ประมาณ 4,xxx บาท
Udaipur - Delhi / บิน Indigo ราคาประมาณ 1,000 - 2,000 บาท
ขากลับใช้บริการ Jet Airways ราคาราวๆ 7xxx - 8,xxx บาท
(สะดวกซื้อเองได้ หรือ Inbox เพื่อให้เราซื้อตั๋วให้ก็ได้นะ ค่าตั๋วจ่ายตามจริง! ค่าบริการจัดการตั๋วคนละ 300  บาท)

วีซ่า: 
ทางเลือกที่ 1 : เราจัดการเรื่องเอกสารให้ แต่ต้องไปยื่นเองตามกฏสถานฑูตอินเดียนะจ๊ะ 
ทางเลือกที่ 2:  Visa on Arrival หรือ E-Tourist Visa เราจัดการเอกสารออนไลน์และยื่นให้ทั้งหมด ราคา 2000.- / คน

ราคาใช้จ่ายรวม: โดยประมาณ 3x,xxx ตลอดทริป

รถที่ใช้: 4-5 คนใช้ TOYOTA INNOVA, 6-8 คนใช้ TEMPO TRAVELER
สภาพอากาศ:  ไฮซีซั่น อากาศเย็นและแห้ง กลางคืนอากาศหนาว ที่ทะเลทรายอากาศหนาวมาก


 

ราชาสถาน (Rajasthan)

ถ้าถามว่าชอบที่ไหนที่สุดในอินเดีย สำหรับคนที่ชอบศิลปะ สถาปัตยกรรมและวิถีชีวิต ชื่อ “ราชาสถาน” จะเป็นที่แรกที่เด้งขึ้นมาในหัว! จะไม่ให้ชอบได้ยังไง! ป้อมปราสาทอลังการ สีสันจัดจ้าน ช๊อปปิ้งสนุก แถมแต่ละเมืองในรัฐนี้ก็ไม่เหมือนกันเลย!

ทริป "ราชาฯ พอสังเขป" เป็นทริปสั้นๆ (สั้นสำหรับเรา และสั้นเมื่อเทียบกับความยื่งใหญ่ของราชาสถาน) สำหรับคนที่มีเวลาน้อย เป็นทริปที่เที่ยวชมแต่เพียงเมืองหลักๆ ของราชาสถาน ซึ่งก็ถือว่าได้ครบอยู่

รัฐนี้เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย มีพื้นที่จากขวาไปซ้าย จากบนลงล่าง ราวๆ 700 - 800 ตารางกิโลเมตร ด้านซ้ายติดกับทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) ส่วนด้านขวาเป็นภูเขาอุดมสมบูรณ์ เราจะได้เห็นตั้งแต่วิถีชีวิตดั้งเดิมผ่านความงามบนผ้าพิมพ์ที่ขึ้นชื่อของ จัยปูร์ (Jaipur) เห็นบ้านเรือนที่สร้างด้วยหินทรายทั้งเมือง ที่ จัยซาลเมียร์ (Jaisalmer) เมืองสุดท้ายริมชายแดนอินเดีย -ปากีสถาน, เราจะได้เห็นอดีตความมั่งคั่งของเหล่าราชปุต (ชาวท้องถิ่นดั้งเดิมของราชาสถาน) บนป้อมเมรังการ์ต (Merangarh Fort) ที่ จ๊อดปูร์ (Jodhpur) และเห็นภูมิปัญญาในการสร้างป้อมปราการป้องกันเมืองที่ไม่ใช่แค่การสร้างกำแพง แต่เป็นการรรวมเอาพระราชวัง ที่อยู่ที่อาศัย แหล่งน้ำ และวัดรวมกันอยู่ในพื้นที่ของป้อมเดียว อย่าง ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort), ป้อมจัยซาลเมียร์ (Jaisalmer Fort), และ ป้อมคุมบาลการ์ท (Kumbalgarh Fort) ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งซ้ายที่ค่อนข้างอุดมสมูบรณ์ มีน้ำ มีทะเลสาป ผู้คนก็ใช้เวลากับภาพเขียนและงานศิลปะได้เต็มที่ พระราชวังก็เลยปราณีวิจิตรกว่า บ้านเรือนสองข้างทางเต็มไปด้วยภาพเขียนอย่างที่ เมืองอุดัยปูร์ (Udaipur)

สำหรับขาช๊อปฯ ชาวราชาสถานมีฝีมือในการเย็บปัก สไตล์ที่โดดเด่นคือการตัดกระจกเป็นชิ้นเล็กๆ และเย็บติดกับผ้า ที่นี่มีผ้าสารพัดแบบ ตั้งแต่ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าคลุมหัว ไปจนถึงผ้าคลุมเตียงให้เลือกสรรค์ ตลาดมีให้ช๊อปฯ ทุกเมือง ทุกคนที่มาราชาสถาน ไม่มีใครกลับบ้านมือเปล่า เชื่อสิ! ชาวราชาสถานมีภาษาเป็นของตัวเอง และมีการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ผู้คนแต่งตัวด้วยสีสันสดใน ผู้ชายจะโพกผมด้วยผ้าสารพัดสี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยบ่งบอกถึงวรรณะ ส่วนผู้หญิงจะใส่ชุดกระโปรงยาวถึงตาตุ่ม ไม่จำกัดเฉดสีเช่นกัน

สำหรับช่างภาพแล้ว ที่นี่สีสันจัดจ้าน และถ่ายรูปออกมาสวยมาก! ราชาสถานไม่มีภูเขาหิมะอย่างที่คนไทยเราชอบ แต่ราชาสถานมีให้ดูทั้งวิถีชีวิตทะเลทราย ภูเขา ทะเลสาป วัด ป้อมใหญ่โตอลังการ ปราสาท ศิลปะ หัตถกรรม และราชวังเก่า ที่สำคัญเราว่าราชาสถานเป็นเหมือนรากเหง้าของอินเดีย ที่หาดูไม่ได้แล้วในเมืองใหญ่ และเป็นอะไรที่มีเสน่ห์ และ “อินเดี๊ย...อินเดีย" ที่สุดละ!


 

โปรแกรมการเดินทาง  


Day 1 /: Jaipur
รถและผู้นำทริปรอรับ ณ สนามบินที่จัยปูร์ เข้าที่พัก 

(Overnight in Jaipur)

Day 2 / : Jaipur
วันนี้เที่ยวหนักมาก!!  “จัยปูร์” ได้ชื่อว่า “เมืองสีชมพู” เพราะสมัยโน้น พระมหาราชาแห่งจัยปูร์ได้สั่งให้ประชาชนทาบ้านเรือนในเมืองเก่าเป็นสีชมพูเพื่อต้อนรับมกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ซึ่งชาวอินเดียเชื่อว่าสีชมพูคือสีแห่งไมตรีจิต วันนี้ใช้เวลากับความอลังการของ ป้อมแอมเบอร์ (Amber Fort) พระราชวังและป้อมปราการที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของพระมหาราชาแห่งจัยปุระ แล้วลงมาชมบ่อน้ำโบราณ Meena Kund จากนั้นไปเยี่ยมชมภูมิปัญญาทำทำผ้า Hand Block Print ที่ Anokhi Museum จากนั้นกลับเข้าเมืองเก่า แวะถ่ายรูปที่พระราชวังกลางน้ำ Jal Mahal จากนั้นชมพระราชวังสายลม (Hawa Mahal) สิ่งก่อสร้างด้วยหินทรายสีชมพู มากมายด้วยหน้าต่างช่องเล็กๆ ที่ถูกแกะสลักอย่างวิจิตรงดงามนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นหน้าต่างที่เหล่าสาวๆ นางในได้มาเฝ้ามองชีวิตของผู้คนภายนอกพระราชวัง ปัจจุบันพระราชวังสายลมคือหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของจัยปูร์ ชม City Palace ไฮไลท์ของที่นี่คือประตู 4 ฤดู แล้วเดินช๊อปปิ้งรอบๆ เขตเมืองเก่า
(Overnight in Jaipur)

Day 3 /: Jaipur – Pushkar
หลังอาหารเช้า เดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปอีกสัก 2-3 ชั่วโมงไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูเมือง พุชการ์ (Pushkar) เมืองเล็กๆ น่ารักๆ ที่มีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ใจกลางเมืองด้วยความเชื่อที่ว่าทะเลสาปนี้กำเนิดขึ้นจากดอกบัวที่พระพรหมทิ้งลงมาบนพื้นโลก แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าแม่น้ำคงคา แต่ที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เหล่าผู้แสวงบุญชาวฮินดูมักมาทำพิธีชำระล้างร่ายกายตามท่าน้ำต่างๆ โดยรอบทะเลสาบ ที่นี่เป็นเมืองมังสวิรัติเต็มขั้น ไม่มีเนื้อสัตว์ให้กินนะจ๊ะเข้าที่พักในพุชการ์
(Overnight in Pushkar)

Day 4 /: Pushkar - Jaisalmer
วันนี้นั่งรถกันยาวสักหน่อย 7-8 ชั่วโมง ต่อไปยัง “เมืองสีทอง” ไจซาลเมียร์ (Jaisalmer) ชมพระอาทิตย์ตกที่ Sunset Point ก่อนเข้าที่พัก


(Overnight in Jaisalmer)

Day 5 /: Jaisalmer ( Khuri Sand Dune)
หลังอาหารเช้า ออกไปเยี่ยมชม “เมืองสีทอง”หรือ The Golden City ไจซาลเมียร์ ที่นี่เป็นเมืองที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยเอกลักษณ์ความสวยงามของบ้านเรือนที่สร้างด้วยหินทรายสีน้ำผึ้ง ยามต้องแสงอาทิตย์สวยงามอร่ามดั่งทองซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “เมืองสีทอง” เนินเขาใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของ The Golden Fort หรือ Jaisalmer Fort ซึ่งเป็นป้อมปราการแห่งเดียวในอินเดียที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ อีกทั้งยังโอบล้อมไปด้วยวัดเชน และคฤหาสน์เก่าๆ (Haveli) ที่อวดลวดลายแกะสลักที่ปราณีตวิจิตรอย่างยิ่ง บ่ายโมง กลับมาเตรียมตัวเดินทางสู่เมืองคูริซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 45 กิโลเมตร ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกที่ Khuri Sam Dunes กินอาหารค่ำ สัมผัสอากาศเย็น และชมการแสดงท้องถิ่น จากนั้นออกไปนอนกลางทะเลทรายท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านดวง คืนนี้เรานอนอาบลมห่มฟ้ากัน โรแมนติกมั่กมาก ขอบอก!
(Overnight in Desert) 

Day 6 /: Jaisalmer
10 โมงเช้ากลับเข้าเมืองจัยซาลเมียร์ อาบน้ำอาบท่าแล้วออกเดินทางตรงดิ่งไปจ๊อดปูร์ เข้าชม จัสวันต์ ธาดา (Jaswant Thada) อนุสรณ์สร้างจากหินอ่อน ประตูและเสาแกะสลักลวดลายละเอียดอ่อนงดงาม สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับมหาราชาจัสวันต์ ซิงห์ที่ 2 ที่นี่จะเห็นวิวของเมืองและป้อมเมห์รานการห์ จากนั้นขึ้นเยี่ยมชมป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarth Fort) ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามอยู่บนเนินเขาสูง 125 เมตร มองลงมาจะเห็นที่มาของชื่อ “เมืองสีฟ้า” นั่นคือ ตึกรามที่ฉาบทาด้วยสีฟ้าในเมืองจ๊อดปูร์สวยงามจับใจ นอกจากจะเป็นป้อมปราการและพระราชวังเก่า ที่นี่ยังกลายเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บของวิจิตรล้ำค่าของราชวงศ์เก่าๆ ที่หาดูได้ยากยิ่งในอินเดียด้วย
(Overnight in Jodhpur)

Day 7 /: Jodhpur - Ranakpur - Udaipur
ล้อหมุนกันแต่เช้าหน่อย เพราะเราแวะกันหลายที่ ออกเดินทางต่อไป “เมืองสีขาว” อุดัยปูร์ (Udaipur) แวะที่ วัดเชนใน รานัคปูร์ (Ranakpur Jain Temple) 1 ใน 5 วัดศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาเชน มีห้องโถง 29 ห้องและเสากว่า 1,444 ต้น แต่ละต้นมีลวดลายแกะสลักที่ไม่ซ้ำกันเลย เลยไปต่อที่ ป้อมคุมบาลการ์ท (Kumbalgarh Fort) ป้อมปราการบนเขาเลาะไหล่เขายาวถึง 36 กิโลฯ (ยาวเป็นที่ 2 รองจากกำแพงเมืองจีน) เป็นป้อมที่มีความสำคัญหลังการล่มสลายของป้อมชิตโตการ์ท เป็นที่หลบภัยของเหล่ากษัตริย์จากการรุกรานของโมกุล รวมถึงเจ้าชายน้อยอุดัย ซิงค์ที่หนีมาหลบภัยตั้งแต่ยังเป็นทารก จนพระองค์เติบโตมาครอบครองราชบัลลังค์ และสร้างเมืองอุดัยปูร์ที่เรากำลังจะไปในวันนี้ และ วิ่งยาวต่อไปอุดัยปูร์ อาจจะถึงค่ำสักนิด ตรงเข้าที่พักในอุดัยปูร์
(Overnight in Udaipur)

Day 8 /: Udaipur
อุดัยปูร์ (Udaipur) เมืองที่มีสมญานามว่า “เมืองสีขาว” (White City), และ “เมืองแห่งทะเลสาป” (Lake City) เพราะกลางเมืองมีทะเลสาปพิโชล่า (Pichola Lake) และมีพระราชวังกลางน้ำ (Lake Palace) (ปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นโรงแรม 5 ดาว) วันนี้เข้าชม Udaipur City Palace จากนั้นเดินลัดเลาะเมืองตามตรอกซอกซอยเล็กๆ แคบๆ ที่มากมายด้วยร้านค้าแหล่งช็อปปิ้งในราคาไม่แพงนัก และคาเฟ่เล็กๆ ริมน้ำ ชิลกันทั้งวัน
(Overnight in Udaipur) 

Day 9 /: Udaipur - Delhi - Bangkok
เช็คเอาท์แต่เช้า เพื่อไปขึ้นเครื่องของสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E-525 เวลา 07:10 เพื่อบินไปยังเดลี (ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที) ถึง Terminal 1 แล้วต่อรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่องของ Jet Airways เวลา 14:30 กลับกรุงเทพฯ


 

 

*ราคานี้ “รวม”
• ค่าโรงแรมระดับ 3 ดาว ไม่หรูหรา แต่สะอาด เก๋ไก๋และบรรยากาศดี พร้อมอาหารเช้า
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริป
• ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• ค่าแพ็คเก็จขี่อูฐในไจซาลเมียร์ (แพ็คเก็จรวม ค่าขี่อูฐ ค่าค้างคืนกลางทะเลทราย ค่าอาหารค่ำ และอาหารเช้า)
• รวมค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่ง (ไม่รวมค่ากล้อง)
• ฟรี! อาหารไทยหนึ่งมื้อ (Welcome Meal) ที่โรงแรมของเราในจัยซาลเมียร์

*ราคานี้ “ไม่รวม”
• ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันและอาหารเย็น
• ค่ากล้อง
• ค่าเครื่องดื่มต่างๆ
• ค่าทริปเด็กเสิร์ฟ เด็กยกกระเป๋า และคนขับรถวันละประมาณ 100 รูปี/คน หรือตามความพึงพอใจ

การจองทริป

1. ส่งแบบฟอร์มยืนยันการเดินทางด้านล่าง / Add Line: boom_amperjai / Inbox FB: อำเภอใจ อินเดีย ทราเวล / E-mail: boom_ni@yahoo.com เพื่อยืนยันการเดินทาง
2. โอนมัดจำทริป 4,000 บาทเข้าบัญชีด้านล่าง (ขอเป็นเงินไทยก่อน และเงินมัดจำส่วนนี้ไม่คืนนะจ๊ะ)
   น.ส. เนตรทราย อินทรเจริญศักดิ์
   ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 372-217409-4
   ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 568-2-05142-8
  จำนวนเงินส่วน ถ้าเป็นเงินไทย จ่ายก่อนวันที่ 8 ธันวาคม!
  ส่วนใครที่จะจ่ายเป็นรูปี ให้หิ้วมาจ่ายที่อินเดียเลยจ้า!

3. จองตั๋ว จัดการวีซ่า แล้วก็ลุย!



ทริป "ราชาฯ พอสังเขป"

สนใจไปลุยราชาสถานแบบด่วนๆ กรอกแบบฟอร์มแล้วส่งเข้ามาเลยจ้า
Visitors: 92,046