DELHI for the Weekend (4 คืน 4 วัน)
วันที่เดินทาง: คืน 28 มีนาคม - 1 เมษายน 2024 (๒๕๖๗)
จำนวนวัน: 4 คืน 4 วัน
จำนวนคน: ออกเดินทางที่ 3 คน รับไม่เกิน 9 คน
ราคา: 12,000.- บาท / คน (ค่าทริป รวมพาหนะ ที่พักอาหารเช้า ผู้นำทริปไทย และค่าเข้าชมสถานที่.. ไม่รวมค่าเครื่องบินและค่าวีซ่า)
(สมาชิกเก่าลด 1,000 บาท)
ตั๋วเครื่องบิน: บิน การบินไทย ประมาณ12,xxx บาท (สะดวกซื้อเองได้ หรือ Inbox เพื่อให้เราซื้อตั๋วให้ก็ได้นะ)
วีซ่า:
ทางเลือกที่ 1: เราจัดการเรื่องเอกสารให้ แต่ต้องไปยื่นเองตามกฏสถานฑูตอินเดียนะจ๊ะ
ทางเลือกที่ 2: Visa on Arrival หรือ E-Tourist Visa เราจัดการเอกสารออนไลน์และยื่นให้ทั้งหมด
ราคาใช้จ่ายรวม: โดยประมาณ xxx ตลอดทริป
รถที่ใช้: ใช้ Toyota Innova / TEMPO TRAVELER และบางวันใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน (Metro)
สภาพอากาศ: ไฮซีซั่น อากาศสบายๆ ฟ้าใส
Day 0 / THURSDAY 28 MARCH 2024
บินการบินไทยเที่ยวบินที่ TG315 เวลา 20:00 - 23:00 สู่สนามบินในกรุงนิวเดลี รถและผู้นำทริปรอรับที่สนามบิน เข้าที่พัก
Overnight in Delhi
Day 1/ FRIDAY 29 MARCH 2024
เริ่มต้นวันแรกในเดลีด้วยโปรแกรมเบาๆ เยี่ยมชมบ่อน้ำชั้นบันได Ugrasen Ki Baoli หรือ Agrasen Ki Baoli ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกออฟฟิตอินเตอร์ฯ สูงใหญ่ จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีความงามแบบขลังๆ นี้ซ่อนอยู่
Ugrasen Ki Baoli เป็นบ่อน้ำขั้นบันไดโบราณแบบ Chan Baori แถวจัยปูร์ สร้างขึ้นมาก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแห้งแล้ง แม้จะไม่อลังการเท่า หากแต่ด้วยสภาพที่ตั้ง รายร้อมด้วยตึกสมัยใหม่ที่สร้างกันสูงขึ้นๆ ราวจะทะยานสู่ฟ้า แต่ Ugrasen Ki Baori กลับเป็นสิ่งก่อสร้างโบราณเพียงแห่งเดียวย่านนี้ที่มีโครงสร้างย้อนศรลงสู่ดิน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ทความโดดเด่นของสุสานหุมายูนอยู่ที่ สวนที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลายอันมาต่อกันเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสใหญ่ นับเป็นสุสานที่มีสวนแห่งแรกในอนุทวีป เป็นศิลปะผสมโมกุลกับอิสลาม ด้วยความยิ่งใหญ่และสวยงาม พระเจ้าชาห์ จาฮัน ผู้เป็นเหลน จึงได้แรงบันดาลใจจากสุสานแห่งนี้ไปสร้าง ทัชมาฮาล ที่เมืองอัครา (Agra)
หลังพระเจ้าหุมายูนสวรรคต พระเจ้าอัคบาร์ พระโอรสได้ย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองอัครา (Agra) ส่งผลให้สุสานหุมายูนขาดการดูแล ชาวบ้านเข้ามาทำไร่ยาสูบ เป็นที่ลี้ภัยของชาวมุสลิมยามสงคราม สุสานอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรม สวนก็เสียหายมากมาย จนกระทั่งสุสานหุมายูนได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลก จึงได้มีการบูรณะฟื้นฟูอย่างจริงจัง และใช้เวลาถึง 10 ปี จึงได้เป็นสภาพที่เราได้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
เสร็จแล้วเราจะพาเดินลัดเลาะไปในตลาดเล็กๆ หลังสุสาน ชื่อ Nizamuddin East Market ที่นี่มีร้านเล็กๆ ไฮไลท์ของที่นี่คือ Anokhi's discount store ร้านสินค้าที่ไม่ผ่าน QC ของแบรนด์ Anokhi (แต่เราว่าก็ยังสวยอยู่ ไม่ต่างกับของในร้านหลักเลยนะ) ที่นี่จะมีของยี่ห้ออโนกี้ลดราคาราวๆ 40% จากป้าย
.
แวะทานอาหารกลางวันที่ Sandoz Restaurant ใกล้ๆ กับ Connaught Places จากนั้นเดินทางไปชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดลี (National Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเดลี หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในอินเดีย เป็นสถานที่เก็บรวบรวมวัตถุโบราณคอลเลคชั่นเก่าแก่และหาดูได้ยาก ตั้งแต่ยุคอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เครื่องประดับโบราณ งานแกะสลักเหรียญเก่าแก่ และที่เก็บพระบรมสารีริกธาติของพระพุทธเจ้าด้วย
.
มายัง คอนนอห์ท เพลส (Connaught Places) ย่านธุรกิจใจกลางเดลี สวรรค์ของนักช๊อปฯ นักกินและนักดื่ม วันนี้เราก็จะใช้ชีวิตยามเย็นเหมือนชาวเดลีมั่ง! จิบชากันที่ยามบ่ายกันที่ Cha-bar เดินไปเยี่ยมชมวัดซิกซ์ กูรุดวารา บังกลา ซาฮิบ (Gurudwara Bangla Sahib) ที่อยู่ใกล้ๆ แล้วทานอาหารเย็นกันที่ร้าน Parikrama / Zaffran จากนั้นดื่มกันต่อที่ Junkyard Cafe
Overnight in Delhi
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
Day 2: SATURDAY 30 MARCH 2024
*วันนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศมาใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ ตุ๊กๆ ในการเดินทางกันค่ะ*
ถ้าไม่ได้มาเดิมชมย่านเมืองเก่า หรือ Old Delhi คงจะถือว่ามาไม่ถึงเดลีโดยแท้ วันนี้เดินทางกันด้วยรถไฟฟ้า มายังย่านเมืองเก่าเพื่อชม Jama Masjid และทานไก่ย่างสูตรโบราณของร้าน Karim เจ้าแรกในเดลี
.
เดินทางต่อไปแล้วไปยัง ตลาดข่าน (Khan Market) ตลาดไฮโซแห่งเดลี มีอาหารให้เลือกทั้งจีน อินเดีย และอาหารฝรั่ง อีกทั้งมีคาเฟ่เล็กๆ ให้นั่งพักกันด้วย แน่นอนว่ามีร้านค้าสำหรับสินค้าแบรนด์ดังให้เลือกช๊อปฯ กัน ทั้งร้าน Anokhi, Fab India, Good Earth ฯลฯ
จากนั้นนั่งรถไฟฟ้ามายังตลาดงานฝีมือ Dilli Haat!
"DILLI" คือ เดลี สะกดตามที่คนอินเดียออกเสียงว่า "ดิลลี" (Delhi) ส่วน Haat แปลว่า “ตลาด”
ที่นี่เป็นเหมือน “จตุจักรเดลี” คือ เป็นตลาดกล้างแจ้ง แหล่งรวมงานฝีมือจากทุกภาคส่วนในอินเดีย บริหารงานโดย การท่องเที่ยวเดลี (Delhi Tourism) เป็นตลาดปิด คำว่า “ปิด” ในที่นี้คือ มีรั้วรอบขอบชิด ต้องจ่ายค่าเข้า แต่เดิมที่นี่เป็นเหมือนศูนย์รวม OTOP จากหลายๆ รัฐทั่วอินเดีย โดยจะมีการสลับหมุนเวียนเปลี่ยนร้านที่เข้ามาขายทุกๆ 15 วัน ของจะไม่ค่อยซ้ำ และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ผลิต พบ ผู้บริโภคโดยตรง ข้างในยังมี Food Court ที่รวมอาหารจากหลายๆ รัฐทั่วอินเดีย ราคารับได้ ใครไม่ช๊อปฯ ก็ลองอาหารร้านโน้น ร้านนี้ อยู่กันได้ทั้งวันไม่เบื่อ!
.
อิ่มใจแล้ว เดินทางกลับที่พักด้วยรถไฟฟ้า
Overnight in Delhi
DAY 3: SUNDAY 31 MARCH 2024
ออกจากโรงแรมแต่เช้า เยี่ยมชม สวนสาธารณะโลดี้ (Lodhi Gardens) อดีตที่นี่เคยเป็นราชวัง และสุสานของราชวงศ์โลดี้ (ปกครองเดลีราวๆ ศตวรรษที่ 15 - 16) ราชวงศ์ฮินดูราชวงศ์สุดท้ายก่อนที่เดลีจะถูกครองครองโดยราชวงศ์โมกุล ด้านในมีสุสานสวยงามหลายแห่ง มีสะพานเก่าแก่ ชื่อ Athpula bridge และภายในร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ สวนดอกไม้นานาพันธุ์ อังกฤษเข้ามาปกครองเดลีและปรับเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นสวนสาธารณะ ปัจจุบันที่นี่คือสวนที่ชาวเดลีมาออกกำลังกายตอนเช้า พาครอบครัวมาปิคนิคในวันหยุดวันเสาร์อาทิตย์ และมาพักผ่อนยามเย็นทุกวัน
แวะกินของเล่น ที่ All American Diner inside ณ India Habitat Center (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสวนสาธารณะโลดี้)
.
เดินเล่นถ่ายรูปกันในเขต Lodhi Art District (669 to 673 Second Avenue, Block 6) แกลอรี่ภาพกราฟฟิตี้แห่งแรกในอินเดีย ที่รวมงานเพ้นท์ งานพ่นจากศิลปินต่างชาติและศิลปินในอินเดียกว่า 30 ภาพ (หรือมากกว่า) แต่ละภาพเพ้นท์บนฝาผนังของย่าน Lodhi Colony ภาพแล้วภาพเล่า ทุกตรอกทุกถนนมีภาพเขียน ดูและถ่ายรูปกันให้เหนื่อยไปข้างหนึ่งเลย
แวะเยี่ยมชม Safdarjung Tumb
(ทางเลือก) เยี่ยมชม Gandhi Smitri ที่ที่มหาตมะ คาธีถูกสังหาร วันที่ 30 มกราคม 1948 ทุกอย่างในห้องถูกทิ้งไว้ในลักษณะเดิม พร้อมด้วยมีการจัดแสดงภาพเขียนและงานแกะสลักไว้ให้ชมด้วย
Overnight in Delhi
Day 4: MONDAY 1 APRIL 2024
เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่ประหลาดแห่งหนึ่งในโลกนั่นคือ พิพิธภัณฑ์ส้วม! (Sulabh International Museum of Toilets) พบกับประวัติศาสตร์ของสุขาที่ยาวนานกว่า 2,500 ปี มีตั้งแต่สุขาแบบธรรมดาไปจนถึงสุขาหรูหราอลังการสำหรับมหาราชา คนที่ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้แก่ Dr. Bindeshwar Pathak โดยเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่ปี 1994
ทานอาหารกลางวัน แล้วไปใช้เงินรูปีกันที่ตลาด "Dastkar Nature Bazaar" (เปิด 11 a.m. to 7 p.m., ปิดวันพุธ) ตลาดงานมือ จัดโดยองค์กรเล็กๆ ที่มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าของตน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาขายจากทั่วสารทิศในอินเดีย ตลาดเล็กๆ แต่มีของเจ๋งๆ ราคาต่อรองได้บ้างไม่ได้บ้าง มีของสวยๆ แนวๆ เพียบ!
จากนั้นไปเยี่ยมชม คูตุ๊ป มีนาร์ คอมเพล็ก (Qutub Minar Complex) Qutub คือ ชื่อกษัตรย์ผู้เริ่มสร้าง และ Minar แปลว่าหอคอย) เป็นโบราณสถานที่ประกอบด้วยซากปรักหักพังของเสาอาคาร เสาเหล็ก ซากวัดฮินดู ซากวัดเชน ที่สร้างทับด้วยสุเหร่า หลุมฝังศพ (ซึ่งตอนนี้ก็เหลือแต่ซากเช่นกัน) โดยมี หอคอยคูตุ๊ป สูง 73 เมตรตั้งอยู่ใจกลางโดดเด่นเป็นสง่า ประหนึ่งหอคอยแห่งชัยชนะที่กษัตริย์โมกุลสามารถเข้ายึดครองเดลีได้ สภาพอาคารสมบูรณ์ รอบๆ แกะสลักด้วยอักษรสันสกฤต หอคอยคูตุ๊ปเริ่มสร้างครั้งแรกในสมัยกษัตริย์โมกุลนามว่า คูตุ๊ปบุตดิน ไอเบ็ค (Qutubuddin Aibak) ในปีค.ศ. 1192 และสร้างเสร็จในอีกเกือบ 100 ปีต่อมา หอคอยคูตุ๊ปได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกในแง่ศิลปะสถาปัตยกรรมรูปแบบอิสลามที่โดดเด่นสวยงาม ปัจจุบันหอคอยคูตุ๊ปเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเดลีด้วยนะ
.
ปิดท้ายด้วยอาหารค่ำก่อนส่งสนามบินเดลี
ใช้บริการการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 316 เวลา 23:00- 05:15 กลับสู่ประเทศไทย
*ราคานี้ “รวม”
• ค่าโรงแรมระดับ 3 ดาว สะอาด เก๋ไก๋และบรรยากาศดี พร้อมอาหารเช้า
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริป
• ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• ค่าน้ำดื่มบนรถตลอดทริป
• รวมค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่ง (ไม่รวมค่ากล้อง)
*ราคานี้ “ไม่รวม”
• ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันและอาหารเย็น (หารกันตามส่วน)
• ค่ากล้อง
• ค่าเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุข้างต้น
• ค่าทริปเด็กเสิร์ฟ เด็กยกกระเป๋า และคนขับรถวันละประมาณ 100 รูปี/คน หรือตามความพึงพอใจ
การจองทริป
1. ส่งแบบฟอร์มยืนยันการเดินทางด้านล่าง
2. โอนมัดจำทริป 5,000 บาทเข้าบัญชีด้านล่าง (เงินมัดจำส่วนนี้ไม่คืนนะจ๊ะ)
น.ส. เนตรทราย อินทรเจริญศักดิ์
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 372-217409-4
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 568-2-05142-8
จำนวนเงินส่วนที่เหลือจ่าย 15 วันก่อนออกเดินทาง!
3. จองตั๋ว จัดการวีซ่า แล้วก็ลุย!
