ราชาสถาน เอียงซ้าย

ราชาสถาน (Rajasthan)....เอียงซ้าย

'ราชาสถาน' เป็นรัฐที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย จากซ้ายสุดถึงขวาสุดระยะทางเกินกว่า 750 กิโลเมตร ( นั่นคือประมาณ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่) รัฐนี้รัฐเดียวคิดเป็นพื้นที่ 10.4 % ของประเทศอินเดีย ที่น่าสนใจคือ ฝั่งซ้ายของราชาสถานแห้งแล้งติดทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) แต่ในขณะเดียวกันฝั่งขวาของรัฐฯ กลับเต็มไปด้วยทะเลสาปและพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพร...
สร้างความหลากหลายและน่าค้นหาให้กับรัฐที่กว้างใหญ่รัฐนี้อย่างยิ่ง
.
ทริป "ราชาสถาน (Rajasthan)....เอียงซ้าย"  เป็นทริปที่เจาะราชาสถานฝั่งซ้าย ดินแดนที่เต็มไปด้วยทะเลทราย ธรรมชาติสวยแปลกตา ผู้คนแต่งตัวสีสันจัดจ้าน และสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งไม่แพ้ที่ไหนในอินเดีย

Mandawa  Bikaner  Jaisalmer
Jodhpur Pushkar

โปรแกรมการเดินทาง

Day 0 / FRI 17 NOV: Bangkok - Jaipur
เดินทางจากกรุงเทพฯ โดยสายการบิน AIR ASIA เที่ยวบินที่ FD 130 เวลา 19:25 ถึงสนามบินนานาชาติจัยปูร์ เวลา 22:05 รถและผู้นำทริปรอรับที่สนามบินจัยปูร์ เข้าที่พัก
(Overnight in Jaipur)

Day 1 / SAT 18 NOV : Jaipur - Mandawa (168 Kms / 2-3 hours)
เดินทางต่อไปยังเมืองแมนดาวา (Mandawa) เมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า เป็น “Open Gallery” มีคฤหาสถ์เก่าๆ (Havelis) กระจายอยู่เต็มเมืองแต่ละหลังมีภาพวาดประดับประดาสวยงามมาก เดินชมความงามของคฤหาสถ์แต่ละหลัง เข้าที่พักที่ดัดแปลงมาจาก Haveli
(Overnight in Mandawa)

Day 2 /SUN 19 NOV : Mandawa - Bikaner (190 Kms / 2-3 hours)
ออกเดินทางไปยังเมือง บิคาเนียร์ (Bikaner) บิคาเนียร์ (Bikaner) เป็นเมืองใหญ่ อยู่ติดทะเลทรายธาร์ เยี่ยมชม Junagarh Fort ป้อมที่สมบูรณ์มากป้อมหนึ่งในอินเดีย Junagarh Fort สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1589 - 1593 เป็นป้อมที่ใหญ่ เป็นทั้งวัง และพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแต่งได้เนี้ยบและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ใช้เวลาราวๆ 1-2 ชั่วโมง แล้วเข้าที่พัก
(Overnight in Bikaner)

Day 3 /MON 20 NOV : Bikaner - Jaisalmer (370 kms / 6-7 hours)
นั่งรถกันยาวสักหน่อย ตรงไปยัง “เมืองสีทอง” Jaisalmer (ไจซาลเมียร์) ชม พระอาทิตย์ตกที่ Sunset Point ก่อนเข้าที่พัก
(Overnight in Jaisalmer)

Day 4 / TUE 21 NOV: Jaisalmer Sight Seeing - Khuri Desert (45 kms / 1 hour) 

หลังอาหารเช้า ออกไปเยี่ยมชม “เมืองสีทอง”หรือ The Golden City ไจซาลเมียร์ ที่นี่เป็นเมืองที่หลายๆ คนโปรดปราน ด้วยเอกลักษณ์ความสวยงามของบ้านเรือน ที่สร้างด้วยหินทรายสีน้ำผึ้ง ยามต้องแสงอาทิตย์สวยงามอร่ามดั่งทองซึ่งเป็นที่มา ของชื่อ “เมืองสีทอง” เนินเขาใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของ The Golden Fort หรือ Jaisalmer Fort ซึ่งเป็นป้อมปราการแห่งเดียวในอินเดียที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ อีกทั้งยังโอบล้อมไปด้วยวัดเชน และคฤหาสน์เก่าๆ (Haveli) ที่อวดลวดลายแกะสลัก ที่ปราณีตวิจิตรอย่างยิ่ง

ช่วงเช้า เยี่ยมชม Gardisar Lake ทะเลสาปที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งน้ำสำคัญของ Jaisalmer พาเดินลัดเลาะตามเมืองเก่า และเยี่ยมชม Patwa Haveli ฮาเวลีที่สวยและปราณีตที่สุดในจัยซาลเมียร์ และ Natmal Ki Ji Haveli "ฮาเวลีสองพี่น้อง" ที่เป็นงานแข่งกันของช่างแกะสองพี่น้อง งานแกะทั้งสองฝั่งของอาคารไม่เหมือนกันเลย

ทานอาหารกันที่ The Trio ร้านอาหารที่ขึ้นขื่อที่สุดของ Jaisalmer

ช่วงบ่าย ต่อตรงไปยัง เมืองคูริ (Khuri Village) อยู่ห่างจากตัวเมืองราว 45 กิโลเมตร ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตกที่เนินทราย กินอาหารค่ำสัมผัสอากาศเย็น และชมการแสดงท้องถิ่น จากนั้นออกไปนอนกลางทะเลทราย ท่ามกลางหมู่ดาวนับล้านดวง คืนนี้เรานอนอาบลมห่มฟ้ากัน โรแมนติกมั่กมาก ขอบอก!(Overnight in Desert or Tent) 

Day 5 /WED 22 NOV : Khuri - Jaisalmer Sight Seeing (Day 2)
หลังอาหารเช้า เดินทางกลับเข้ามายังตัวเมือง Jaisalmer (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
วันนี้เยี่ยมชม Jaisalmer Fort / และวัดเชนที่สวยงามและวิจิตรมากในตัวป้อม เดินเล่นและช๊อปปิ้งตามอัธยาศัย
บ่ายๆ เยี่ยมชม Amar Sagar วัดเชนที่สวยวิจิตรอีกแห่งหนึ่งใน Jaisalmer ชมพระอาทิตย์ตกอีกมุมของเมือง
(Overnight in Jaisalmer) 

Day 6 / THU 23 NOV : Jaisalmer - Jodhpur (285 kms / 4-5 hours)
หลังอาหารเช้า ออกเดินทางตรงดิ่งไป จ๊อดปูร์ (Jodhpur) เยี่ยมชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort) ป้อมปราการที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างามอยู่บนเนินเขาสูง 125 เมตร มองลง มาจะเห็นที่มาของชื่อ “เมืองสีฟ้า” นั่นคือ ตึกรามที่ฉาบทาด้วยสีฟ้าในเมืองจ๊อดปูร์ สวยงามจับใจ นอกจากจะเป็นป้อมปราการและพระราชวังเก่า ที่นี่ยังกลายเป็น พิพิธภัณฑ์เก็บของวิจิตรล้ำค่าของราชวงศ์เก่าๆ ที่หาดูได้ยากยิ่งในอินเดียด้วย เข้าที่พัก ชมวิวป้อมยามค่ำจากดาดฟ้าของโรงแรม หรือออกไปเดินชมแสงสีผู้คนในเมืองเก่า หรือ ช็อปปิ้งตามอัธยาศัย
(Overnight in Jodhpur)

Day 7 / FRI 24 NOV : Jodhpur Sight Seeing
เดินเล่นในเมืองเก่าพอสังเขป เยี่ยมชมบ่อน้ำขั้นบันได Toorji Ka Jhalra Bavdi ซึ่งอยู่ในเขตเมืองเก่าของจ๊อดปูร์ - ออกไปเยี่ยมชม Mandore Garden - เยี่ยมชม Rao Jodha Desert Rock Park ถ่ายภาพตัวป้อมจากด้านหลัง
(Overnight in Jodhpur)

Day 8 / SAT 25 NOV : Jodpur - Pushkar (257 Kms  / 4-5 Hours)
เดินทางต่อไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูเมือง พุชการ์ (Pushkar) เมืองเล็กๆ น่ารักๆ ที่มีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์อยู่ใจกลางเมืองด้วยความเชื่อที่ว่าทะเลสาปนี้กำเนิดขึ้นจากดอกบัวที่พระพรหมทิ้งลงมาบนพื้นโลก แม้จะไม่ยิ่งใหญ่เท่าแม่น้ำคงคา แต่ที่นี่ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่เหล่าผู้แสวงบุญชาวฮินดูมักมาทำพิธีชำระล้างร่ายกายตามท่าน้ำต่างๆ โดยรอบทะเลสาบ ที่นี่เป็นเมืองมังสวิรัติเต็มขั้น ไม่มีเนื้อสัตว์ให้กินนะจ๊ะเข้าที่พักในพุชการ์
(Overnight in Pushkar)

Day 9 / SUN 26 NOV : Pushkar - Jaipur (SHOPPING & DROP AIRPORT) (142 Kms / 2-3 hours)
เอนจอย ช๊อปปิ้ง และชิลๆ กันที่พุชการ์ จากนั้นอำลาราชาสถานเพื่อขึ้นเที่ยวบินที่ FD 131 ของสายการบิน Air Asia เวลา 22:35 กลับกรุงเทพฯ

*ราคานี้ “รวม”
• ค่าโรงแรมระดับ 3 ดาว ไม่หรูหรา แต่สะอาด เก๋ไก๋และบรรยากาศดี พร้อมอาหารเช้า
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริป
• ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• ค่าแพ็คเก็จขี่อูฐในไจซาลเมียร์ (แพ็คเก็จรวม ค่าขี่อูฐ ค่าค้างคืนกลางทะเลทราย ค่าอาหารค่ำ และอาหารเช้า)
• รวมค่าเข้าชมสถานที่ และค่ากล้อง

*ราคานี้ “ไม่รวม”
• ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันและอาหารเย็น
• ค่าเครื่องดื่มต่างๆ • ค่าทริปเด็กเสิร์ฟ เด็กยกกระเป๋า และคนขับรถวันละประมาณ 100 รูปี/คน หรือตามความพึงพอใจ

การจองทริป
1. ส่งแบบฟอร์มยืนยันการเดินทางด้านล่าง
2. โอนมัดจำทริป 5,000 บาทเข้าบัญชีด้านล่าง (เงินมัดจำส่วนนี้ไม่คืนนะจ๊ะ)

น.ส. เนตรทราย อินทรเจริญศักดิ์
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 372-217409-4
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 568-2-05142-8

จำนวนเงินส่วนที่เหลือจ่าย 15 วันก่อนออกเดินทาง!
3. จองตั๋ว จัดการวีซ่า แล้วก็ลุย!