เมฆาลัย ในหมู่มวลเมฆ (7 คืน 7 วัน)
Double Decker Living Roots Bridge / ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
วันที่เดินทาง: 20-27 ตุลาคม 2024 (๒๕๖๗)
....................
จำนวนวัน: 7 คืน 7 วัน
....................
จำนวนคน: ออกเดินทางที่ 4 คน รับไม่เกิน 9 คน (ปิดรับ 30 สิงหาคม หรือจนกว่าจะเต็ม)
....................
ราคา: 29,000 / คน
(ค่าทริป รวมพาหนะ ที่พักอาหารเช้า ผู้นำทริปไทย และค่าเข้าชมสถานที่.. ไม่รวมค่าเครื่องบินและค่าวีซ่า)
(สมาชิกเก่าลด 1,000 บาท)
....................
ตั๋วเครื่องบิน: บิน AIR ASIA และ Air INDIA ประมาณ 15,xxx บาท (สะดวกซื้อเองได้ หรือ Inbox เพื่อให้เราซื้อตั๋วให้ก็ได้นะ)
วีซ่า:
ทางเลือกที่ 1: เราจัดการเรื่องเอกสารให้ แต่ต้องไปยื่นเองตามกฏสถานฑูตอินเดียนะจ๊ะ
ทางเลือกที่ 2: Visa on Arrival หรือ E-Tourist Visa เราจัดการเอกสารออนไลน์และยื่นให้ทั้งหมด
ราคาใช้จ่ายรวม: โดยประมาณ xx,xxx ตลอดทริป
รถที่ใช้: โตโยต้าอินโนว่า ถ้าเกิน 4 คนใช้ Tempo Traveller
สภาพอากาศ: ปลายฝนต้นหนาว อาจจะมีฝนหลง กลางวันร้อน กลางคืนและช่วงเช้าอากาศเย็น
โปรแกรมการเดินทาง
Day 0 / SUN 20 OCT 2024 : Bangkok - Guwahati
ใช้บริการของสายการบิน AIR ASIA เที่ยวบินที่ FD-120 เวลา 22:05 - 23:10 ไปยังเมืองกูวาฮาติ (Kolkata)
Overnight: Guwahati
Day 01 / MON 21 OCT 2024 : Guwahati - Shillong: (98 Kms)
ออกเดินทางไปยังเมืองชิลลอง (Shillong) เมืองหลวงของรัฐเมฆาลัย (Meghalaya)
.
ชิลลอง เป็นเมืองที่อากาศเย็นและมีฝนตกชุก จึงมีชื่อเล่นว่า 'สก็อตต์แลนด์แห่งตะวันออก' (Scotland of the East) ใช้เวลาเดินทางราวๆ 3 ชั่วโมง แวะที่จุดชมวิวอันงดงามของทะเลสาบอูเมียม (ทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย)
เข้าบ่ายเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ดอน บอสโค (Don Bosco Museum) พิพิธภัณฑ์เรื่องราวและวิถีชีวิตของชนเผ่าและรัฐทั้ง 7 หรือรัฐ Seven Sister นอกจากนี้ด้านบนยังสามารถมองเห็นวิวขิงเมืองชิลลองได้ด้วย ช่างเย็นเข้าที่พัก
Overnight: Shillong
Nohkalikai Falls / ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
Day 02 / TUE 22 OCT 2024 : Shillong - Cherrapunji (54 Kms):
หลังอาหารเช้า ออกเดินทางไปยังเมือง เชอร์ราปุนจิ (Cherrapunji) ซึ่งได้ชื่อว่า เป็น 'ดินแดนที่ชุ่มฉ่ำที่สุดในโลก' (The wettest place on the Earth)
ระหว่างทางไปเยี่ยมชมน้ำตกช้างและจุดชมวิวหุบเขามอดอก (Mawdok Valley view point) ไปถึงเชอร์ราปุนจีและเยี่ยมชมน้ำตก Nohkalikai (น้ำตกที่สูงเป็นอันดับสี่ของโลก) ถ้ำหินปูนมอไซ (Mawsmai lime stone cave)/ ถ้ำ Arwah น้ำตก Seven Sister น้ำตก Danthlen และสวน Thangaram (หากมีเวลา) etc. จากนั้นเข้าที่พักในเชอร์ราปุนจิ
Overnight: Cherrapunji
Day 03 / WED 23 OCT 2024 : Cherrapunji Double Decker Root Bridge:
หลังอาหารเช้า ออกเดินทางไปเยี่ยมชม "สะพานรากไม้สองชั้นแห่งเชอร์ราปุนจิ" (Cherrapunji Double Decker Living Root Bridges) สะพานรากไม้ที่โด่งดังและโดดเด่นที่สุดของรัฐเมฆาลัย (Meghalaya) การเดินขึ้นไปชมสะพานรากไม้สองชั้นนี้ต้องไต่บันไดถึง 3,500 ขั้น วันนี้ใช้เวลากับสะพานรากไม้นี้ทั้งวัน เข้าที่พักในเชอร์ราปุนจิ
Overnight: Cherrapunji
ี
Dawki / ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
Day 04 / THU 24 OCT 2024 : Shillong - Dawki - Mawlynnong - Shillong (รวมระยะทาง 76 Kms)
วันนี้หลังอาหารเช้า เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านมะลินนอง (Mawlynong) หมู่บ้านที่สะอาดที่สุดในเอเชีย (ขับรถ 3 ชั่วโมง) ไปถึง Mawlynnong และสำรวจหมู่บ้านที่สะอาดที่สุด สัมผัสทัศนียภาพอันงดงามของบังคลาเทศจากทางเดินลอยฟ้าสูง 85 ฟุตที่ทำจากไม้ไผ่โดยคนในท้องถิ่น นอกจากนี้เรายังจะได้สัมผัสกับสะพานรากไม้ที่มีชีวิตแบบชั้นเดียว (Single Decker Living Roots) แห่งเดียวที่หมู่บ้าน Riwai
จากนั้นเราขับรถต่อไปที่ Dawki ซึ่งเป็นเมืองที่มีพรมแดนระหว่างอินเดียและบังคลาเทศ (ห่างจากหมู่บ้าน 18 กม.) ล่องเรือในแม่น้ำ Umngot ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวธรรมชาติแบ่งเขตแดนของเขากาสี (Khasi) และเทือกเขา Jaintia และเป็นที่กั้นพรมแดนอินเดียและบังคลาเทศ
Overnight : Mawlynnong / Riwai
Day 05 / FRI 25 OCT 2024 : Mawlynnong/Riwai - Shillong(76 Kms)
เดินทางกลับมาที่ชิลลอง ขณะขับรถกลับไปยัง Shillong ระหว่างทาง เพลิดเพลินไปวิวของหุบเขา Laitlum Canyon
เที่ยวและพักผ่อนในชิลลอง
Overnight : Shillong
Day 06 / SAT 26 OCT 2024 : Shillong - Pobitora (130 Kms)
เที่ยวชมสถานที่ต่างๆในชิลลอง อย่าง ทะเลสาปวิลเลี่ยม (William’s Lake), ทะลสาปวาร์ด (Ward’s Lake) โบสถ์แห่งเมืองชิลลอง (Shillong Church) จากนั้นเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติ Pobitora
Overnight : Pobitora
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ท
Day 07 / SUN 27 OCT 2024 : Pobitora Wild Life Sanctuary (48 Kms):
วันนี้ใช้เวลาช่วงเช้าตรู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโพบิโตร่า (Pobitora wild life Sanctuary) ที่นี่เราจะขี่ช้าง ไฮไลท์ของที่นี่คือ เป็นถิ่นอาศัยของแรดอินเดีย (Great Indian One-Horned Rhinoceros) จำนวนมากถึงสองในสามของโลก นอกจากนั้นยังมีสัตว์อีกมากมายให้ชมอาทิ ควายป่า แมวป่า เสือดาว และนกอีกมากมายหลายชนิด ฯลฯ
กลับเข้าไปทานอาหารเช้าที่รีสอร์ท แล้วออกมาเที่ยวชมเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าโพบิโตร่าด้วยการนั่งจี๊บ (Jeep Safari)
ช่วงบ่ายเดินทางกลับกูวาฮาติ
วันนี้เที่ยวเก็บตกในตัวเมืองกูวาฮาติ (Guwahati) ที่นี่เป็นเมืองหลวง และเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของอัสสัม (Assam) มีแม่น้ำพรหมบุตร (Brahmaputra) ไหลผ่านตัวเมือง เที่ยววัด Maa Kamakhya วัด Umananda (เกาะริมแม่น้ำที่เล็กที่สุดในโลก) Srimanta Shankardeva Kalakshetra สถาบันวัฒนธรรมแห่งอัสสัม
ช่วงเย็นล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดินหรือล่องเรือดินเนอร์ในแม่น้ำพรหมบุตรที่ Alfresco Grand จากนั้นเดินทางกลับกรุงเทพด้วยสายการบิน Air Asia เวลา 23:40 บินตรงกลับกรุงเทพฯ
*ราคานี้ “รวม”
• ค่าโรงแรมระดับ 3 ดาว สะอาด บรรยากาศดี พร้อมอาหารเช้า
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริป
• ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• รวมค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่ง (ไม่รวมค่ากล้อง)
• ค่าซาฟารีดูแรดที่อัสสัม
• ค่าเทรคขึ้นไปดูสะพานรากไม้
• ค่าล่องเรือ (ถ้ามี)
*ราคานี้ “ไม่รวม”
• ค่าตั๋วเครื่องบินและค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันและอาหารเย็น
• ค่ากล้อง
• ค่าเครื่องดื่มต่างๆ
• ค่าทริปเด็กเสิร์ฟ เด็กยกกระเป๋า และคนขับรถวันละประมาณ 100 รูปี/คน หรือตามความพึงพอใจ
การจองทริป
1. ส่งแบบฟอร์มยืนยันการเดินทางด้านล่าง /โทรฯ / แจ้งใน Facebook / ส่ง Line, E-mail คุยกับเราเพื่อยืนยันการเดินทาง
2. โอนมัดจำทริป 5,000 บาทเข้าบัญชีด้านล่าง (เงินมัดจำส่วนนี้ไม่คืนนะจ๊ะ)
น.ส. เนตรทราย อินทรเจริญศักดิ์
ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 372-217409-4
ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 568-2-05142-8
จำนวนเงินส่วนที่เหลือจ่าย 15 วันก่อนออกเดินทาง!
3. จองตั๋ว จัดการวีซ่า แล้วก็ลุย!