MARCH 2025: From Ziro to ONE (Arunachal to Asam)
a
ITANAGAR – ZIRO – MAJULI – KAZIRANGA – GUWAHATI
จำนวนวัน: 6 คืน 7 วัน
---------------------------------
ช่วงเวลาเดินทาง: 20 - 26 มีนาคม 2025 (๒๕๖๘)
---------------------------------
จำนวนคน: 4 คนเดินทางได้เลย! รับไม่เกิน 9 คน
---------------------------------
ราคา: 37,000 บาท / คน
(ราคาทริป รวมผู้นำทริปคนไทย - รถและที่พักตลอดทริป - ค่าเข้าชมทุกที่...ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
* ลูกทริปที่เคยไปกับเราแล้ว ลด 1,000 บาท*
---------------------------------
ตั๋วเครื่องบิน:
บิน Indigo และ Air Asia รวม 3 เที่ยว (บินภายใน 1 เที่ยว) อยู่ที่ 8xxx - 10,xxx (สะดวกซื้อเองได้ หรือ Inbox เพื่อให้เราซื้อตั๋วให้ก็ได้นะ) ราคาขึ้นลงแล้วแต่วันนะ หมั่นเช็ค ราคาพอใจแล้วจัดการสอยได้เลย!
---------------------------------
วีซ่า:
ใช้ E-Tourist Visa เราจัดการเอกสารออนไลน์และยื่นให้ทั้งหมด หรือ สามารถยื่นเองได้ถ้าต้องการ
ราคาใช้จ่ายรวม: โดยประมาณ xxx - ตลอดทริป
รถที่ใช้: 4 คนใช้ TOYOTA INNOVA, 6-8 คนใช้ TEMPO TRAVELLER 1 คัน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ชื่อทริป "From Ziro to One"
...Ziro ไม่ใช่ Zero และไม่ได้แปลว่า 0 (ศูนย์) แต่ Ziro คือ หมู่บ้านเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในเรื่องราว ตั้งอยู่ในรัฐ อรุณาจัลประเทศ (Arunachal Pradesh) ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่นที่สุดในรัฐนี้ นั่นคือ ชนเผ่า Apatani - อะปาตานี ชนเผ่าเกษตรกรรมที่นอกจากโด่งดังเรื่องเทคนิการปลูกข้าวและเลี้ยงปลาในที่นาผืนเดียวกันแล้ว ยังมีวัฒนธรรมการเจาะทะลวงจมูกที่หาดูได้ยาก เพราะตอนนี้การสักและเจาะจมูกแบบนี้ได้ถูกทางการห้ามไปแล้ว
... One คือ One-Horned Rhinoceros หรือ แรดนอเดียว ซึ่งอาศัยอยู่ที่เดียวในอินเดียคือ รัฐอัสสัม (Assam)
"From Ziro to One" คือการเดินทางเก็บที่เที่ยวเจ๋งๆ 3 ที่ใน รัฐอรุณาจัลฯ และ รัฐอัสสัม เริ่มจากเทศกาล Myoko ในหมู่บ้าน Ziro (ซึ่งจัดขึ้นเฉพาะในช่วงปลายมีนาคมเท่านั้น) แล้วต่อไปยังเกาะมาชุลี (Majuli Island) เกาะบนแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก! แหล่งธรรมชาติและมรดกตกทอดทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครในรัฐอัสสัม และปิดท้ายที่การขี่ช้างดูแรดนอเดียวในอุทยานแห่งชาติคาซิรังกา อุทยานแห่งชาติไม่กี่แห่งในอินเดียที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage)
View of Ziro Village / ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
DAY 01 / THU 20 MARCH : BANGKOK - KOLKATA - ITANAGAR
เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ด้วยสายการบิน Indigo เที่ยวบินที่ 6E 1058 เวลา 05:45 ใช้เวลาบินประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง ถึง เมืองโกลกัตต้า ประเทศอินเดียเวลา 07:10 แล้วรอต่อเครื่องของสายการบินเดียวกัน Indigo เที่ยวบินที่ 6E 6749 เวลา 12:45 ไปยังเมือง Itanagar เมืองหลวงของรัฐอรุณาจัลประเทศ ถึงเวลา 14:10 รถรอรับที่สนามบิน เข้าที่พัก
(Overnight in Itanagar)
DAY 02 / FRI 21 MARCH : ITANAGAR – ZIRO (164 kms / 03 hrs drive)
ช่วงบ่ายเดินทางต่อไป เมือง Ziro ใช้เวลาพักผ่อนในเมือง
Ziro ตั้งอยู่ในเขต Subansiri ตอนล่าง ที่ระดับความสูง 1,688 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และ 164 กม. จาก Itanagar (เมืองหลวงของอรุณาจัลประเทศ) Ziro เป็นบ้านของชาว Apatani (อะปาตานี) ซึ่งเป็นชนเผ่าเกษตรกรรมที่ไม่ใช่คนเร่ร่อน ชาวอะปาตานีเป็นชุมชนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและทำการเพาะปลูกในพื้นที่ชุ่มน้ำ และยังเพาะเลี้ยงปลาควบคู่กันไปในนาข้าวผืนเดียวกัน (Paddy-cum-fish culture)
'อาปาตานี' เผ่าพันธุ์ทิเบต-มองโกลอยด์ที่เชื่อกันว่าอพยพมาจากพื้นที่ทิเบตนานแล้ว ไม่มีการบันทึกช่วงเวลาเป็นลายลักษณ์อักษร แม้ว่าส่วนใหญ่ในรัฐจะนับถือศาสนาคริสต์ แต่อาปาตานีก็ยังนับถือภูตผีศาสนาเป็นอีกลัทธิหนึ่ง รู้จักในชื่อ Donyi-Poloism อาปาตานีถือเป็น 'บิดา' ของชนเผ่า Tani ทั้งหมด (ได้แก่ Nyishi, Adi, Galo, Tagin และ Apatani) วิธีการทำนาแบบ Paddy-cum-pisciculture (ปลูกข้าวและเลี้ยงปลาในผนนาเดียวกัน) ของพวกเขามีชื่อเสียงไปทั่วโลก
ผู้หญิงชนเผ่าอาปาตานีที่นี่ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กันในเรื่องรอยสักบนใบหน้าและการเจาะจมูก ซึ่งจะเห็นได้เฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมาก คนรุ่นใหม่ไม่ทำอีกต่อไปแล้ว เพราะประเพณีนี้ถูกยกเลิกโดยรัฐบาลไปแล้ว ชนเผ่าอาปาตานีมีเทศกาล และพิธีกรรมมากมาย หนึ่งในเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ 'เมียวโกะ' ซึ่งเฉลิมฉลองกันประมาณปลายมีนาคมของทุกปี
(Overnight in Ziro)
DAY 03 / SAT 22 MARCH : ZIRO (Myoko festival)
วันนี้ทั้งวัน ใช้เวลากับ Myoko Festival เทศกาลที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรเพื่อความอุดมสมบูรณ์ ปกป้องหมู่บ้านจากวิญญาณชั่วร้าย ชมชาวบ้านในขบวนแห่ ดูหมอผีสวดมนต์ ชมเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิม หนึ่งในเทศกาลชนเผ่าที่ดีที่สุดในรัฐอรุณาจัล
ABOUT MYOKO FESTIVAL:
เทศกาล Myoko มีการเฉลิมฉลองทุกปีในเมือง Ziro ท่ามกลางสามชุมชน Diibo-Hija, Hari-Bulla และ Hong ของที่ราบสูง Apatani โดยหมุนเวียนกันไปด้วยความรื่นเริงและการเฉลิมฉลองแบบดั้งเดิม หมอผีซึ่งเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดของชุมชน ตัดผมและเสื้อผ้าแบบดั้งเดิม ไข่เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ มีสุกรและไก่จำนวนมากรอการฆ่า พวกอาปาตานีนับถือผีและบูชาพระอาทิตย์ (โดนยี) และพระจันทร์ (โปโล) จุดเด่นของพิธีคือรุ่งเช้าของวันที่สองซึ่งแต่ละเผ่าในหมู่บ้านรวบรวมหมูที่จะบูชายัญ หมอผีจะสวดมนต์และทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่ผู้หญิง โรยสัตว์ด้วยแป้งและเบียร์ข้าว ในตอนท้ายของการให้ศีลให้พร สัตว์ต่างๆ จะถูกนำไปแสดงในกระท่อมของเจ้าของที่จะบูชายัญ
(อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนใจอ่อน)
Majuli Mask / ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
DAY 04 / SUN 23 MARCH : ZIRO – MAJULI (190 kms / 07 hrs drive)
หลังอาหารเช้าเดินทางไปยังเกามันชุลี (Majuli) ถึงที่พักบนเกาะ พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือ เดินเล่นในหมู่บ้านตามอัธยาศัย
MAJULI - เกาะบนแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนแม่น้ำพรหมบุตร เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของภูมิภาคของอัสสัมเลยก็ว่าได้ ในศตวรรษที่ 15 ท่านศรีมันตะ ศังกรเทพ (Srimanta Shankardeva) กูรูพหูสูตรผู้มากความสามารถชาวอัสสัม ได้เข้ามาตั้งรกรากในเกาะมาชุลี และก่อตั้งลัทธิไวศณพนิกาย- รุ่นใหม่ Neo-Vaishnavite หรือ 'Eka Naam Dharma' จากนั้นมาชุลีก็กลายเป็นจุดศุนย์กลางแห่งความรุ่งเรืองของ 'ลัทธิไวศณพนิกาย- รุ่นใหม่' ในอัสสัม
นอกจากนั้นเกาะมาชุลียังเป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นถิ่นนกอพยพหายาก เช่น นกกระสา นกกระเรียนไซบีเรีย ฯลฯ และยังเป็นถิ่นงานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม อาทิ งานเครื่องปั้นดินเผา และงานหน้ากากอีกด้วย
(Overnight: Majuli)
DAY 05 / MON 24 MARCH: MAJULI
วันนี้เยี่ยมชม "สาตร" (Satra-คล้ายอาศรม วัด โรงเรียนที่สอนศิลปะ เรียกกันในเฉพาะในรัฐอัสสัม) ต่างๆ ในเกาะมาชุลี รวมถึง สามกุรี สาตร (Samaguri Satra) ที่โด่งดังในเรื่องทำหน้าน Salmora ซึ่งโด่งด้งในเรื่องการปั้นหม้อ
(Overnight: Majuli)
Majuli Island /ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
DAY 6 / TUE 25 MARCH: MAJULI – KAZIRANGA (100 kms / 2 hrs drive)
หลังอาหารเช้าเดินทางออกจากเกาะมาชุลีด้วยเฟอรรี่ข้ามแม่น้ำพรหมบุตร เพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติคาซิรังกา (Kaziranga National Park)
ด้วยพื้นที่ 430 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติคาซิรังกาตั้งอยู่ใจกลางรัฐอัสสัม เป็นที่อยู่อาศัยของแรดนอเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก (แรดนอเดียว - The Great One-Horned Rhino พบได้ที่เดียในอินเดีย คือ ในรัฐอัสสัมเท่านั้น) รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด เช่น เสือ ช้าง เสือดำ หมี และนกอีกหลายพันตัว ในปี 1985 UNESCO ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกเนื่องจากมีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ถึงอุทยานแห่งชาติคาซิรังกาช่วงบ่าย รับประทานอาหารกลางวัน หลังจากนั้นออกไปซาฟารีทางฝั่งตัวันตกของอุทยานกันด้วยรถจี๊บ (มีช่วงเวลาประมาณ 2:00PM / 3:00PM) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ดูพระอาทิตย์ตกแล้วกลับมายังที่พัก
(Overnight : Kaziranga)
DAY 07/ THU 26 MARCH: KAZIRANGA TO GUWAHATI (205 kms / 4 hours drive) / DROP AIRPORT
เช้าตรู่ออกไปซาฟารีบนหลังช้างเพื่อชมแรดนอเดียวตามธรรมชาติ (เวลาเยี่ยมชม คือ 05:00 / 06:00 AM/ 7:00 AM) ตัวจริงไม่ได้น่ากลัวเลย ออกจะน่ารักน่าชังด้วยซ้ำ จริงๆ นะ ซาฟารีใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงบนหลังช้าง จากนั้นกลับมาอาบน้ำอาบท่า ทานอาหารเช้า และออกเดินทางจากอุทยานแห่งชาติคาซิรังกา เพื่อไปยังเมืองกุวาฮาติ (Guwahati) แวะทานอาหารกลางวัน และช๊อปปิ้งสักเล็กน้อย ก่อนที่จะส่งสนามบิน เพื่อใช้บริหารของสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ FD 125 เวลา 23:40 กลับสู่ประเทศไทยอย่างชื่นมื่น (ลงสนามบินดอนเมือง) ถึงประเทศไทยเวลา 03:45
**จบทริป**
*ราคานี้ "รวม":
• ค่าโรงแรมหรือ เกสท์เฮ้าส์ ระดับ 3 ดาว พร้อมอาหารเช้าตลอดการเดินทาง
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริป
• ค่าน้ำมันค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• ค่า Permit เข้าที่เที่ยวต่างๆ
• ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ (ถ้ามี)
**ราคานี้ "ไม่รวม":
• ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ และค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันและอาหารเย็น ใครกินใครจ่าย หารกันตามส่วน รวมถึงผู้นำทางด้วยค่ะ
• ค่าทริปคนขับรถ ตามความพึงพอใจ
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าซักผ้า และเครื่องดื่มต่างๆ
การจองทริป
1. ส่งแบบฟอร์มยืนยันการเดินทางด้านล่าง
2. โอนมัดจำทริป 4,000 บาทเข้าบัญชีด้านล่าง (เงินมัดจำส่วนนี้ไม่คืนนะจ๊ะ)
น.ส. เนตรทราย อินทรเจริญศักดิ์
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)เลขที่ 372-217409-4
ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เลขที่ 568-2-05142-8
จำนวนเงินส่วนที่เหลือจ่าย 15 วันก่อนออกเดินทาง!
3. จองตั๋ว จัดการวีซ่า แล้วก็ลุย!