JUNE 2024: SPITI-India's Middle Earth (12 คืน 13 วัน)

SPITI India's Middle Earth : 
(1) วันที่เดินทาง: 2 - 14 มิถุนายน 2024 (๒๕๖๗) / 12 คืน 13 วัน
(2) วันที่เดินทาง: 16 - 28 มิถุนายน 2024 (๒๕๖๗) / 12 คืน 13 วัน

(ปิดทริป 1 มีนาคม 2024)
--------------------------------- 
ราคา: 38,000 บาท/คน (ราคาทริป...ไม่รวมตั๋ว) 
(**ที่พักไม่มีเตียงแยก หรือ Twin Beds / ถ้าต้องการพักเดี่ยวเพิ่ม 13,000 บาท)

*ลูกทริปที่เคยไปกับเราแล้ว ลด 1,000 บาท

--------------------------------- 
จำนวนคน: 5 คนเดินทางได้เลย! รับไม่เกิน 9 คน
--------------------------------- 

ตั๋วเครื่องบิน: บินระหว่างประเทศใช้ THAI AIRWAYS รวม 2 เที่ยวอยู่ที่ 12,xxx++ (สะดวกซื้อเองได้ หรือ Inbox เพื่อให้เราซื้อตั๋วให้ก็ได้นะ) / บินภายในใช้ INDIGO ราคาขึ้นลงแล้วแต่วันนะ หมั่นเช็ค ราคาพอใจแล้วจัดการสอยได้เลย!

วีซ่า: 
E-Tourist Visa สามารถยื่นเองได้ หรือเราจัดการเอกสารออนไลน์และยื่นให้ทั้งหมด

ราคาใช้จ่ายรวม: โดยประมาณ 5x,xxx++  - ตลอดทริป

Spiti แปลว่า "Middle Land" หรือ ดินแดนระหว่างกลาง กลางในที่นี้คือ กลางระหว่างอินเดียและธิเบต แต่เราว่ามันเหมือนดินแดนกึ่งกลางระหว่างมุนษย์กับเทวดา กึ่งกลางระหว่าง โลกกับ สวรรค์ มากกว่า เราเลยเรียกที่นี่ว่า India's Mddle Earth เหมือนดินแดนในเทพนิยายที่ผู้เขียน J. R. R. Tolkien บรรยายไว้ใน Lords of the Rings ยังไงยังงั้นเลย

 
สปิติวัลเลย์ เป็นหุบเขาที่ซ่อนตัวเองอยู่ภายในเทือกเขาในรัฐหิมาจัลประเทศ (Himachal Prasedh) ประเทศอินเดีย

ดินแดนแถบสปิติวัลเล่ย์ นี้ไม่มีสนามบิน ต้องไปทางรถอย่างเดียว ทางก็โค้ง ลำบาก น่าหวาดเสียว อาหารการกินก็ลำบาก ไม่คอยมีอะไรให้อิ่มท้อง แค่พอประทังชีพเท่านั้น อีกทั้งยังเต็มไปด้วยที่สูงกว่า 3,500 เมตรขึ้นไป (สูงกว่าเลห์) ฉะนั้นเสี่ยงต่ออาการแพ้ที่สูงเป็นอย่างยิ่ง ควรชั่งใจ พิจารณาร่างกายและจิตใจตัวเองให้ดีๆ ก่อนจองทริปนะจ๊ะ

Day 1 : 2 JUNE / 16 JUNE : Bangkok - Delhi - Kalka
ถึงกรุงเดลี รถรอรับที่สนามบิน พาเที่ยวหรือช๊อปปิ้งที่เดลีเล็กน้อย (ไว้คุยกันเมื่อมาถึง) ก่อนจะไปขึ้นรถไฟขบวน HWH DLI KLK MAIL(12311) เวลา 21:40 น. ไปยังเมือง Kalka  รถไฟถึงราวๆ 04:30 แล้วรอต่อรถไฟ Toy Train เที่ยวเช้าไปเมืองชิมลา
(Overnight on the train)

Day 2 : 3 JUNE / 17 JUNE : Kalka - Shimla (Toy Train) (88 Kms / 4-5 ชั่วโมง) 
ออกเดินทางโดยรถไฟมรดกโลก หรือที่เรียกว่า Toy Train ขบวน Shivalk Dlx Express (52451) เวลา 05.30 สู่เมืองชิมลา (Shimla) เมืองตากอากาศบนเทือกเขา ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ถึงชิมลาราวๆ 10.30 (อาหารเช้าบนรถไฟ)
(Overnight in Shimla)

ภาพจากทริปกันยายน 2018

Day 3 : 4 JUNE / 18 JUNE : Shimla - Sangla (6-7 ชั่วโมง / ความสูง 2,712 เมตร )
วันนี้ออกเดินทางทั้งวันไปยัง หมู่บ้านซังกล้า (Sangla) ผ่านแม่น้ำบาสป้า (Baspa River) ผ่าน ซังกล้าวัลเล่ย์ (Sangla Valley) อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านซังกล้าที่ขึ้นชื่อในเรื่องเกษตรกรรม 
(Overnight in SANGLA)

Day 4 : 5 JUNE / 19 JUNE  : Sangla - Chitkul - Kalpa ( 8-9 ชั่วโมง / ความสูง 2,960 เมตร) 
ออกเดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านชิตตูล (Chitkul) หมู่บัานสุดท้ายชายแดนอินเดีย - จีน ที่นี่มีที่ตั้งอันสวยงาม เดินเล่นและถ่ายรูปริมแม่น้ำบาสป้า แวะเยี่ยมชมวัดประจำหมู่บ้าน จากนั้นเดินทางออกไปยัง หมู่บ้านกัลป้า (Kalpa) ที่ในตำนานว่ากันว่าเป็นเมืองที่องค์พระศิวะเคยมาประทับอยู่ในช่วงหน้าหนาว ที่นี่จะเห็นวิวของเทือกเขา Kinner-Kailash และยอดเขา Jorkandan ด้วย
(Overnight in KALPA)

Day 5 : 6 JUNE / 20 JUNE : Kalpa - Nako - Tabo (8-9 ชั่วโมง / ความสูง 3,650 เมตร) 
ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงช่วงเช้าทำ Inner Permit กันที่นี่ จากนั้นเดินทางจากหมู่บ้านกัลป้า ต่อไปยังทางหลวงระหว่างอินเดีย - ธิเบต หมายเลข NH 22 หยุดพักที่ หมู่บ้านนาโก (Nako) เขตสุดท้ายของ คินนัวร์วัลเลย์ (Kinnaur valley) ผ่าน หมู่บ้านซัมโด (Sumdo) หมู่บ้านแรกประตูสู่ สปิติวัลเลย์ (Spiti Valley) เดินทางสู่ หมู่บ้านทาโบ (Tabo Village) หมู่บ้านที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสปิติวัลเลย์ ทาโบมีจุดเที่ยวที่สำคัญคือ วัดทาโบ (Tabo Monastery) อายุเก่าแก่กว่าพันปี และเป็นพุทธธิเบตไม่กี่แห่งที่มีที่ตั้งอยู่ในหุบเขา ไม่ใช่สร้างอยู่บนยอดเขาเหมือนเหมือนวัดพุทธธิเบตอื่นๆ 
(Overnight in TABO)

ภาพจากทริปกันยายน 2018

Day 6 : 7 JUNE / 21 JUNE : Tabo – Pin Valley – Mudh - Kaza (8-9 ชั่วโมง / ความสูง 3,795 เมตร)
วันนี้ขับต่อไปยังเมืองคาซ่า (Kaza) ระหว่างทางแวะเที่ยวพินวัลเล่ย์ (Pin Valley) หุบเขาพินได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (Pin National Park) เมื่อปี 1987 ที่นี่เป็นที่อยู่ของสัตว์หายากอย่าง เสือดาวหิมะถึง 12 สายพันธุ์, ไซบีเรียน อิเบค (Siberian ibex) มีนกหายากและพืชพันธุ์ที่สูงแปลกตามากมาย แวะเยี่ยมชม Kungri Monastery และหมู่บ้าน Mudh ก่อนที่จะขับต่อไปเข้าที่พักในเมือง คาซ่า
(Overnight in Kaza)

Day 7 : 8 JUNE / 22 JUNE : Kaza - Kye Monastery - Komik - Hikkim - Langza - Kaza (6-7 ชั่วโมง / ความสูง 4,520 เมตร )
วันนี้เดินทางขึ้นสู่ที่สูงที่สุดในทริป...
เยี่ยมชมวัดคี (Kye Monastery) ซึ่งเป็นไฮไลท์หนึ่งของทริป วัดคีตั้งอยู่บนความสูง 13,668 ฟุตล้อมรอบด้วยภูเขาและที่ราบกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่นี่เป็นทั้งศูนย์การศึกษาเรียนรู้และเป็นที่ลี้ภัยของชาวธิเบตด้วย
เยี่ยมชมหมู่บ้าน Kibber ที่ความสูง 4,205 เมตรจากระดับน้ำทะเล
เดินทางต่อไปยัง หมู่บ้านโคมิค (Komik) หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงแค่ 84 คน เป็นหมู่บ้านที่สูงที่สุดในเอเชียตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนความสูง 4,513 เมตรจากระดับน้ำทะเล
จากนั้นแวะส่งโปสการ์ด ณ ไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในโลกในหมู่บ้าน Hikkim แล้วเดินทางต่อไป หมู่บ้าน Langza ที่ความสูง 4,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เดินชมหมู่บ้านที่มีประชากร 137 คนใน 33 ครัวเรือน ชมวัดธิเบตอายุราวๆ 1,000 ปี และไปดูซากฟอสซิลที่ทำให้เรารู้ว่า เมื่อก่อนหุบเขาสปิติเคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเล Tethys Sea มาก่อน ขับกลับเข้าที่พักที่คาซ่า
 (Overnight in Kaza)

Day 8 :  9 JUNE / 23 JUNE  : Kaza - Dhankar - Lhalung (5-6 ชั่วโมง / ความสูง 3,900 เมตร)
วันนี้เดินทางไปยังหมู่บ้าน Dhankar และหมู่บ้าน Lhalung 

หมู่บ้าน Dhankar อดีตเมืองหลักแห่งสปิติวัลเลย์ ตั้งอยู่บนที่สูงมองลงมาเห็นแม่น้ำสปิติ (Spiti River) และแม่น้ำพิน (Pin River) ไหลมาบรรจบกัน ที่นี่มีวัดอายุ 1200 ปีที่ตั้งหมื่นเหม่อยู่บนโขดหิน และถ้ามีเวลาพอเราจะได้เดินเทรคกันเล็กน้อย เพื่อขึ้นไปชม Dhankar Lake

หมู่บ้าน Lhalung ซึ่งแปลว่า “ดินแดนแห่งพระเจ้า” ลาลุงตั้งอยู่บนตีน เทือกเขาทังมาร์ (Tangmar Mountains) คนที่นี่เชื่อว่า พระเจ้าอาศัยอยู่บนเทือกเขานี้ และเทือกเขาเปลี่ยนเฉดสีส้ม เหลือง แดง ตามอารมณ์ของพระองค์ท่าน เยี่ยมชมวัดที่เก่าที่ที่สุดแห่งหุบเขาสปิติ ซึ่งตำนานเล่ามาว่าสร้างเสร็จในคืนเดียวโดยนางฟ้าเสด็จลงมาสร้างไว้ และนางฟ้าเหล่านั้นก็ยังอาศัยอยู่ในวัดนี้ ที่นี่จึงมีกฏห้ามจับฝาผนังโดยเด็ดขาดมิฉะนั้นนางฟาเหล่านั้นจะบินหนีไป

เยี่ยมชม วัดลาลุง (Lhalung Monastery) ที่มีพระพุทธรูปสามหน้า ดั่งว่า พระพุทธองค์หันหน้าไปทุกทิศทางในเวลาเดียวกัน คืนนี้ที่พักเราเป็นแบบโฮมสเตย์ในหมู่บ้านนะจ๊ะ
(Overnight in a homestay in LHALUNG)

ภาพประกอบจากทริปกันยายน 2018

Day 9 : 10 JUNE / 24 JUNE : Lhalung – Gette - Kibber - Losar – Kunzum La – Chandratal Lake (7-8 ชั่วโมง / ความสูง 4,230 เมตร) 

วันนี้ขับรถข้าม Kunzum La Pass ที่ความสูง 4,572 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ไปยังทะเลสาป จันทรา (Chandratal) ทะเลสาปจันทราตั้งอยู่กลางเทือกเขาทิมาลัยที่ความสูง 4,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล “Chandra” แปลว่า พระจันทร์ และ “Taal” แปลว่าทะเลสาป ที่ได้ชื่อแบบนี้มาเพราะรูปทรงที่คล้ายพระจันทร์เสี้ยวนั่นเอง ถ่ายรูปแล้วนั่งดูทะเลสาปเปลี่ยนสีจากสีฟ้าสู่สีเขียวมรกต คืนนี้เรานอนกันในเต้นท์ที่แคมป์ห่างจากทะเลสาป 2 กิโลฯ
(Overnight in camp / Chandratal Lake)

Day 10 : 11 JUNE / 25 JUNE : Chandratal Lake – Batal - Chattru – Rohtang Pass – Manali (6-7 ชั่วโมง / ความสูง 2,050 เมตร)
วันนี้ขับกลับบนเส้นทาง Kaza - Manali Highway ผ่าน Rotang Pass กลับไปยังมะนาลี ถึงที่พักในมะนาลี พักผ่อนตามอัธยาศัย
(Overnight in Manali)

Day 11 : 12 JUNE / 26 JUNE : Manali Sight Seeing
วันนี้พักผ่อน และ เดินเล่นตามอัธยาศัยในมะนาลี (ไม่ใช้รถ) 
(Overnight in Manali)

Day 12 : 13 JUNE / 27 JUNE :  Manali - Chandigarh (300 Kms / 7-8 ชั่วโมง) 
เดินทางทั้งวันไปยังเมืองชาร์ดิการ์ธ (Chandigarh) วันนี้นั่งรถแทบทั้งวัน
(Overnight in Chandigarh)

Day 13 : 14 JUNE / 28 JUNE  : Chandigarh - Delhi - Bangkok 
เที่ยว Rock Garden ในตัวเมืองชาร์ดิการ์ธ
บ่ายใช้บริการเที่ยวบิน 6E 5019 ของสายการบิน Indigo เวลา 17:40 - 18:40 กลับเดลี และต่อเครื่อง Air India เที่ยวบินที่ AIxxเวลา xx กลับกรุงเทพฯ

ภาพจากทริปที่ผ่านๆ มา
SPITI India's Middle Earth กันยายน 2019 : https://www.amperjaitravel.com/17188995/spiti-indias-middle-earth-sep-2019

*ราคานี้ "รวม":

• ค่าโรงแรมหรือ เกสท์เฮ้าส์ ระดับ 3 ดาว ที่ Shimla และ Manali พร้อมอาหารเช้า
• ค่าที่พัก เต้นท์ พร้อมอาหารเช้า และเย็น ตั้งแต่ออกจาก Shimla จนกลับมาถึง Manali (วันที่ 3 -9 ของการเดินทาง)
• ค่ารถไฟแบบ 2AC และ แบบนั่ง Delhi - Kalka - Shimla และค่ารถไฟ Toy Train
• ค่าเช่ารถพร้อมคนขับตลอดทริป
• ค่าน้ำมันค่าทางด่วน ค่าจอดรถ และค่าภาษีต่างๆ
• ค่า Permit เข้าสปิติวัลเลย์
• ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ (ถ้ามี)

 **ราคานี้ "ไม่รวม":

• ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศ และค่าวีซ่า
• ค่าอาหารกลางวันทุกวัน และอาหารเย็น ของวันที่ 1, 2, 10, 11 และ 12 ของการเดินทาง (วันที่อยู่ในเขตเมือง) ใครกินใครจ่าย หารกันตามส่วน รวมถึงผู้นำทางด้วย
• ค่าทริปคนขับรถ ตามความพึงพอใจ
• ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและเครื่องดื่มต่างๆ
  

  ---

  ** หมายเหตุ*
• เนื่องจากสปิติวัลเลย์ต้องผ่านที่สูง อากาศเบาบาง ใครที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงควรพิจารณาตัวเองก่อนจองทริปนะคะ!
• เนื่องจากสปิติวัลเลย์เป็นเขตที่สูง การเดินทางลำบาก และบางทีมีดินถล่ม ทางปิด อากาศแปรปรวนบ่อยครั้ง โปรแกรมจึงอาจเปลี่ยนแปลงได้ความความเหมาะสมและต้องเอาความปลอดภัยของทุกคนเป็นที่ตั้ง!!

  ---